รพ.เอกชนคืนเงินให้-เรียกเก็บ สธ.แทน หลังเซียนมวยติดโควิด-19 โพสต์บิลค่ารักษากว่า 3 แสน

แป๊ว หน้าราม หนึ่งในเซียนมวยที่ติดเชื้อโควิด-19 เจ้าตัวเลือกที่จะไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่าน ถ.รามคำแหง เพราะอยู่ใกล้บ้าน สุดท้ายเจอค่ารักษาตัวกว่า 3 แสนกว่าบาท จึงได้โพสต์ถามต่อหน่วยงานรัฐ ว่าคนติดเชื้อโควิด-19 รักษาฟรีจริงหรือไม่

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง แป๊ว หน้าราม ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตนเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว พอทราบผลตรวจว่าติดโควิด-19 จึงแจ้งให้โรงพยาบาลส่งตัวเข้ารับการรักษากับโรงพยาบาลของรัฐเพราะรักษาฟรี แต่โรงพยาบาลเอกชนไม่ยอมส่งตัว ยื้อให้รักษาที่นั่น

หลังจากที่ตนข้องใจค่ารักษาพยาบาล ทางโรงพยาบาลเอกชนที่ตนรักษาอยู่บอกให้นำบิลมารับเงินคืน 1 แสน 8 หมื่นบาท  โดยทางโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวจะไปเรียกเก็บกับกระทรวงสาธารณสุขเอง ไม่ต้องจ่ายสักบาทพร้อมระบุว่าไม่ต้องออกข่าว ขอให้ลบโพสต์ แต่ถ้าได้เงินคืนแล้ว ตนก็จะยอมลบโพสต์ทิ้งเพราะไม่อยากมีเรื่องกับโรงพยาบาล

ตอนนี้ทำความเข้าใจกับทางโรงพยาบาลแล้วเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายทั้งหมด ผู้บริหารรับทราบแล้ว โดยจะรักษาตัวจนหายก่อนให้กลับบ้านได้ ซึ่งพูดคนละอย่างกับตอนที่มาเรียกเก็บเงิน ไม่ได้ต้องการทำลายชื่อเสียงของโรงพยาบาล

ทั้งนี้รัฐบาลมีนโยบายที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทุกสิทธิการรักษา ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน

โดยก่อนหน้านี้ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ระบุว่า ประกาศ ของ สธ.กำหนดว่า โรคไวรัสโคโรนา 2019 เป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา

ในประกาศจะมีกำหนด ชื่อโรคและกำหนดว่า สถานพยาบาลเอกชนทุกแห่งจะต้องระดมทรัพยากรมาช่วยดูแลประชาชน รวมถึงจัดระบบส่งต่อที่เป็นมาตรฐาน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและการเข้าถึงการรักษาพยาบาลของประชาชน ขณะนี้ได้นำเข้าศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (Emergency Operation Center: EOC) และมีมติว่า

1.หากประชาชนที่ป่วยเป็นโรคไวรัสโคโรนา 2019 ที่เป็นโรคติดต่ออันตราย ถือเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานพยาบาล ซึ่งต้องได้รับการรักษาพยาบาล หลักคือ ขอให้เลือกรักษาพยาบาลตามสิทธิ์ก่อน เช่น สิทธิประกันสังคม หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) สิทธิสวัสดิการของราชการ อย่างไรก็ตามหากมีความจำเป็นหรือมีภาวะฉุกเฉินก็สามารถใช้สิทธิที่ใดก็ได้รวมถึงสถานพยาบาลเอกชน

2.เงื่อนไขของค่าใช้จ่ายของสถานบริการเอกชนมีดังนี้

-กรณีผู้ป่วยต่างชาติจะต้องใช้สิทธิประกันของผู้ป่วยเองไม่สามารถใช้สิทธิกรณีฉุกเฉินนี้

-กรณีประชาชนคนไทยใช้การรักษาในสถานพยาบาลเอกชนกรณีมีประกันสุขภาพเอกชน ก็ให้ใช้สิทธิประกันสุขภาพเอกชนก่อน ส่วนที่เหลือจะเป็นการสนับสนุนจากภาครัฐบาล

-กรณีประชาชนคนไทยที่ไม่มีประกันสุขภาพเอกชน ให้ใช้กลไกแนวทางในการจ่ายคล้ายกับการป่วยฉุกเฉิน โดยจะต้องหารือกับ 3 กองทุน ว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจะใช้จากกองทุนหรือจะใช้งบกลาง

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/xG-bMsiZus4