ตร.แจ้งความกลับ เจ้าของร้านยำโวยยึดยำปูม้า เป็นของกลาง หลังเข้าจับแรงงานต่างด้าว

นางสาวเยาวลักษณ์ วงษ์ประเสริฐ เจ้าของร้านยำ แซ่บจี๊ดจ๊าด ในซอยรัชดาภิเษก 3 เล่าว่า เด็กแรงงานต่างด้าวในร้าน ซึ่งเป็นชาวไทยใหญ่ จะถูกตำรวจจับกุม 

ในวันเกิดเหตุ ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ชัดเจนว่า แรงงานทั้งสองทำการขออนุญาตถูกต้อง แต่พี่ไม่ได้พกเอกสารติดตัว เนื่องจากเอกสารตัวจริงอยู่ระหว่างไปทำการต่อใบอนุญาต ซึ่งสามารถนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ภายใน 10 นาที แต่เจ้าหน้าที่กลับบอกว่าให้พาเด็กขึ้นรถ พร้อมกับเอายำปูม้า ที่มีราคาสูงใส่ถุงให้ด้วย   

ตนมองว่าทำไมต้องตั้งใจเลือกเอาปูม้าไปด้วย จึงรู้สึกโมโหและไม่ได้รับความยุติธรรม ประกอบกับในวันดังกล่าว ค่อนข้างเครียด เนื่องจากกรุงเทพมหานครประกาศปิดร้านและสถานที่ ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงทำให้พูดจาไม่สุภาพ

ทั้งนี้ ตนเองก็อยากขอโทษที่พูดจาไม่สุภาพ ไม่ได้อยากมีปัญหากับใคร และทราบข้อกฎหมายดี จึงดำเนินการอย่างถูกต้องมาตลอด แต่สิ่งที่ค้างคาใจคือเพราะเหตุใดจึงต้องนำปูม้าไปเป็นของกลางด้วย พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เป็นความเข้าใจผิด เนื่องจากในคลิปมีคำพูดชัดเจน

ด้านตำรวจ 191 ยืนยันว่า จากการตรวจสอบ ตำรวจทั้ง 2 นาย เป็นตำรวจในสังกัด 191 จริง ซึ่งในวันเกิดเหตุ เป็นการออกปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ซึ่งระหว่างนั้น พบเห็นบุคคลต่างด้าวขายของอยู่ จึงทำการตรวจสอบเอกสาร แต่ไม่มี และจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ที่ปรากฎในคลิป ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร

ส่วนที่ระบุว่า ตำรวจขอยำไปเป็นหลักฐาน ยืนยันว่าเป็นการเข้าใจผิด ทั้งนี้ข้อกฎหมาย ให้แรงงานต่างด้าวต้องอยู่กับนายจ้าง ซึ่งในวันเกิดเหตุ แรงงานไม่ได้พกเอกสาร และไม่สามารถนำมาแสดงต่อเจ้าพนักงาน จึงต้องดำเนินการตามข้อกฎหมาย

ขณะเดียวกันพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า ตำรวจที่ปรากฎในคลิป เป็นตำรวจสังกัด 191 แต่เป็นเพียงการเข้าตรวจจับแรงงานต่างด้าวเท่านั้น ไม่ได้เบียดบังนำอาหารไป ซึ่งหน่วยงานต้นสังกัด สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ขณะเดียวกัน ตำรวจที่ปรากฎในคลิป ได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เพราะมีการให้การขัดแย้งกันอยู่

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/O8wC-SoJ3IQ