เลือกตั้งและการเมือง

‘ดี้ นิติพงษ์’ แนะ ‘ลุงตู่’ เปลี่ยนทีมงานใหม่ จวกคณะทำงาน “ไร้น้ำยา”

โดย

17 มี.ค. 2563

17.3K views

หลังจากที่เมื่อคืนวานนี้ (16 มี.ค.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ได้ออกแถลงการณ์ถึงโรคระบาดโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งทำให้โลกโซเชียลและคนในวงการบันเทิงสังเกตเห็นและวิพากษ์วิจารณ์ถึงนายกรัฐมนตรีที่ดูซูบผอมลงอย่างเห็นได้ชัด

หนึ่งในนั้นคือ ‘ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค’ ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า

“ถ้าคุณคือลุงตู่ของหลาน ๆ แถวบ้าน คุณจะออกมาดูโทรมอะไรยังไงก็ได้ แต่ถ้าคุณคือผู้นำที่จะต้องไปรบศึกหนัก คุณจะดูน่าสงสารไม่ได้ครับ

วันนี้ผู้นำดูเหนื่อยล้า เหมือนถูกบั่นทอนพลังไปมาก ผอมโกรก ดูโรยมาก เห็นแล้วก็รู้ว่าเครียด กินไม่อิ่ม นอนไม่หลับ รู้ว่าทำงานหนักเหลือเกิน แบกบ้านเมือง คนธรรมดานี่แค่แบกหนี้บัตรเครดิตตัวเองยังนอนกระสับกระส่าย แต่คุณแบกปัญหาบ้านเมือง ดูก็รู้ว่าทุกข์ทรมานนัก

สปีชสั้น ๆ คืนนี้ ไม่เป็นบวกเลยครับคุณ ประชาชนต้องการเห็นผู้นำที่แข็งแรง เปี่ยมพลัง ในยามวิกฤติแต่ก็ไม่ได้น้ำหนักอะไรนอกไปจากการสื่อข่าวเดิม ๆ

คุณต้องการคณะทำงานใหม่ครับ คนดี คนตั้งใจจริง แต่คณะทำงานไร้น้ำยา ประชาชนเขาไม่ด่าคณะทำงาน เขาด่าคุณ

ผู้นำแต่ละประเทศ ทำงานตัดสินใจอันหนักหน่วง เขาต้องการผู้ช่วยที่วางแผนให้ตัวเขาเข้าถึงประชาชนได้ สื่อสารกันได้อย่างมีจิตวิทยา สปีชสั้น ๆ วันนี้ พร้อมกับเครื่องแบบราชการ และตอนจบ “ประเทศไทยต้องชนะ” แบบตาลอย ๆ ไม่ค่อยมีแรง คุณต้องไล่คนทำงานที่ทำให้คุณดูเป็นตัวตลกต่อหน้าประชาชนออกไปมั่งเถิด ไหน ๆ เขาด่าว่าเป็นเผด็จการ ก็แสดงเผด็จการอันมีประโยชน์ต่อบ้านเมืองสักครั้ง อย่ากลัวคนนินทาว่าเป็นเผด็จการ เพราะเขานินทามาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำแล้ว ทำดีทำเลวยังไงมันก็นินทา

คุณมีทีมงานบางส่วนทางด้านสาธารณสุขที่สุดยอดที่สุดระดับโลก ช่วยแก้ปัญหาอยู่แล้ว

คุณดูแลให้เขาไม่ขาดอาวุธก็พอ คุณต้องเปลี่ยนทีมงานประจำทำเนียบ นายกพูดกับผู้สื่อข่าวบ่อยกว่าโฆษกรัฐบาล นั่นบ้าละ นายกต้องเลิกให้นักข่าวรุม ไม่ว่าจะแบบประชิดตัวและบนโพเดียม เซฟตัวเองมั่ง เป็นผู้นำประเทศนะ การให้สัมภาษณ์แบบถูกรุมจากนักข่าวทำไมถึงชอบกันนัก มีแต่โมโห เสียรังวัด

ทีมงานประจำทำเนียบนะ คุณนะ เฮ้ย จ้างมืออาชีพ ดูแลเสื้อผ้าหน้าผม ประธานาธิบดีอเมริกันจะพูดอะไรทีมีคนเขียนสปีชมืออาชีพ เพื่อให้เป็นที่ประทับใจประชาชนและมีประเด็นแม่นยำชัดเจนและคม ขอรณรงค์เรื่องนี้เลยจ้ะ

ไม่ว่าต่อไปเมืองไทยจะมีผู้นำชื่ออะไร ฝ่ายไหน ช่วยพัฒนาระบบการสื่อสารกับประชาชนให้มีจิตวิทยามากกว่านี้ได้ไหม ทำดีเหนื่อยแทบตาย มาทำท่าประเทศไทยต้องชนะแบบตาลอย ตามที่ลูกน้องซังกะบ๊วยเขียนมาบอกแล้วให้ทำท่า โดยไม่ได้ดูเลยว่า ไม่ใช่เวลา ไม่ใช่ธรรมชาติ คนทำงานที่เก่ง จะหาบทพูดและวางวิธีที่ทำให้ผู้นำมีความมั่นใจ แข็งแรง แบบเป็นธรรมชาติเต็มร้อย

บทสรุปคือ คุณลุงครับ วางแผนแก้ปัญหาต่อไป มีคนช่วยทำอย่างมาก ถึงได้ได้ผลอันน่าพอใจกว่าหลายชาติ แต่คุณลุงต้องการมืออาชีพนะ ที่จะทำให้ประชาชนที่กำลังต้องการวุฒิภาวะผู้นำ เขารู้สึกว่าเขาเชื่อมั่นผู้นำได้ ไม่งั้นลุงก็ผอมไปเถอะ ประนีประนอม ไม่กล้าตัดสินใจ เพราะมีแต่ความรู้สึกลึก ๆ ที่โดนเขาหาว่าเป็นเผด็จการใจร้ายก็เลยไม่กล้าใจร้าย

ผมเชื่อว่าลุงเป็นคนทำเพื่อชาตินะลุง แต่ถ้าลุงเกรงใจคนในสภาวะวิกฤติของชาติ ลุงไม่กล้าตบยุง ลุงแค่เอามือปัดแมลงวัน ลุงจะไม่รอดนะครับ

ผมรักลุงแต่ถ้าลุงไม่ไหว ลุงไขก๊อกได้เลยนะ ท่ามกลางภาวะสงครามที่ไม่มีใครคาดเดาอะไรได้เลย มีแต่คนเก่ง ๆ ที่ไม่ได้ทำจริง คอยวิจารณ์เต็มไปหมด อยากรู้เหมือนกัน....ว่าถ้าลุงไขก๊อก ขอตัวไปเลี้ยงกล้วยไม้ ใครจะมารับฟักร้อน ๆ นี่”

ทั้งนี้ ยังมีนักแสดงสาวอย่าง ‘พลอย เฌอมาลย์’ ได้แสดงความคิดเห็นผ่านโพสต์ในอินสตาแกรมหนึ่งว่า “ชนะอะไรไม่ได้แข่งโอลิมปิก” นอกจากนั้นแล้ว พลอย เฌอมาลย์ ยังได้เคยโพสต์ภาพพร้อมข้อความแสดงความเห็นว่า รับบาลควรสั่งให้ปิดประเทศได้แล้ว

ซึ่งจากประเด็นดังกล่าว ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามกับนายกรัฐมนตรีว่า น้ำหนักลดไปเท่าไหร่ นายกฯ ตอบกลัวมาเพียงสั้น ๆ ว่า “อืม”

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ