สังคม

'แฟลชม็อบ' เปล่งเสียงที่ถูกกลืน ทวงคืนอธิปไตยสู่ประชาชน : สัมภาษณ์พิเศษ ไผ่ ดาวดิน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง

โดย

16 มี.ค. 2563

8K views

'แฟลชม็อบ' เปล่งเสียงที่ถูกกลืน ทวงคืนอธิปไตยสู่ประชาชน :สัมภาษณ์พิเศษ ไผ่ ดาวดิน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง โดย ธิดารัตน์ ม่วงเกตุ

หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ในคดีเงินกู้จากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคจำนวน 191 ล้านบาท และเพิกถอนสิทธิทางการเมืองของคณะกรรมการบริหารพรรค เป็นเวลา 10 ปี เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา นี่จึงเป็นชนวนเหตุทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจต่อนายกรัฐมนตรี อดีตหัวหน้าคณะรัฐประหาร จึงทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักเรียน-นักศึกษาจากโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศ

รูปภาพ แฟลชม็อบ มข.พอกันที

เป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์อีกวาระหนึ่ง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีกลุ่มนักเรียน-นักศึกษาจากสถาบันต่าง ๆ ทั่วประเทศ ร่วมกันจัด ‘แฟลชม็อบ’ หรือการชุมนุมแบบไม่ยืดเยื้อ ของบรรดานักเรียน-นักศึกษาที่พร้อมใจกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องประชาธิปไตย และตั้งคำคามต่อความยุติธรรมในสังคม โดยการร่วมกันจัดกิจกรรม ชูป้าย ร้องเพลง จุดเทียน และเปิดไฟจากโทรศัพท์มือถือ เพื่อแถลงการณ์ต่อต้านมติยุบพรรคอนาคตใหม่ และเรียกร้องประชาธิปไตยจากคณะรัฐบาล

การเคลื่อนไหวทางการเมืองของนักเรียน-นักศึกษาครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 40 ปี เป็นการระดมพลอย่างรวดเร็ว ชาญฉลาด โดยอาศัยเครือข่ายสังคมออนไลน์ แต่ก็อยู่ในรั้วสถานศึกษา และยังไม่ออกไปชุมนุมตามท้องถนน

'การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะเป็นเพียงกองไฟเล็ก ๆ หรือจะกลายเป็นเปลวเพลิงทีลุกลามจนเกิดการเปลี่ยนแปลง'

กระแสความไม่พอใจของกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ โหมรุนแรงบนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะทางทวิตเตอร์ #Saveอนาคตใหม่ กลายเป็นเทรนด์อันดับหนึ่งและมียอดทวิตมากกว่า 1 ล้านครั้งซึ่งในการการชุมนุมครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าการที่มีมติยุบพรรคอนาคตใหม่นั้น เป็นเพียงแค่ปัจจัยรอง เพราะปัจจัยหลักสำคัญคือ ความไม่พอใจในการบริหารประเทศของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทั้งเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ความไม่เป็นธรรมในการใช้อำนาจรัฐแบบไร้มาตรฐาน 

‘มันถึงเวลาแล้ว ที่คนรุ่นใหม่จะลุกขึ้นสู้ เพื่อแสดงจุดยืน และกำหนดอนาคตตัวเอง’

นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ได้กล่าวถึงการรวมตัวครั้งนี้ว่าสาเหตุเกิดจากความอึดอัด หมดความอดทนทางการเมือง และไม่พอใจกับการกระทำรัฐบาลชุดนี้ และคิดว่าคนทั่วประเทศก็อยากเห็นสังคมที่ดีกว่า โดยมีการโพสต์ในทวิตเตอร์ ติดแฮชแท็กกันมากมายในโลกออนไลน์ ประกอบกับเหตุการณ์ที่กลุ่มนักศึกษาบอกว่า รัฐบาลกลั่นแกล้งพรรคการเมืองและกลั่นแกล้งประชาชน ทำให้ทุกคนหมดความอดทนจนต้องออกมารวมตัว โดยกิจกรรมก็จะมีนักศึกษา ออกมาพูดถึงการเมืองในประเด็นต่าง ๆ และจัดพื้นที่เขียนข้อความแสดงความคิดเห็น เพื่อแสดงออกถึงจุดยืนและความรู้สึกที่มีต่อรัฐบาลชุดนี้

รูปภาพ แฟลชม็อบ มข.พอกันที

“ถ้ารัฐบาลจะหาทางออกเรื่องนี้ก็แค่รักษาความเป็นธรรม ให้ประชาชนรู้สึกได้ว่ามันยังมีอยู่จริง แต่ถ้าใช้กลไกการใช้กฎหมายแบบเดิม ๆ ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม ปัญหาต่าง ๆ ก็จะยังไม่จบ”

รวมตัวกันเอง หรือว่ามีคนมาปลุกปั่น

“นี่คือการเคลื่อนไหวแบบใหม่ ของคนยุคสมัยใหม่ ที่เริ่มจากการมีแฮชแท็ก ซึ่งคนที่ปลุกปั่น แล้วทำให้นักศึกษาได้ออกมาเคลื่อนไหวก็คือรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจคสช. และยืนยันว่าไม่ใช่พรรคการเมืองไหนมาหนุนแน่นอน เพราะเราไม่ได้รับผลประโยชน์ใด ๆ จากพรรคการเมืองเลย นักศึกษาทุกคนรวมตัวมาช่วยกันเอง นำสิ่งของมาแบ่งปันกันเช่น น้ำ หน้ากากอนามัย เป็นต้น ซึ่งสิ่งนี้ผมคิดว่ามันเกิดจากกลุ่มคนที่มีความคิดเดียวกัน มีความหวังเดียวกัน มาช่วยกันโดยไม่ได้มีพรรคการเมืองใดมาสนับสนุนเราเลย” นายวชิรวิทย์ เทศศรี หนึ่งในผู้จัดชุมนุมที่มข.พอกันที กล่าว

ถ้ารัฐบาลสกัดการจัดกิจกรรม แล้วบอกให้เราไปเรียน ไม่ใช่มาชุมนุม

การรวมตัวครั้งนี้ ทุกคนต่างมีหน้าที่รับผิดชอบอยู่แล้ว ซึ่งการที่รัฐบาลพยายามห้าม หรือยุติแสดงออกทางการเมืองมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว รัฐบาลควรจะรับฟังประชาชน แล้วนำคำวิพากษ์วิจารณ์ไปปรับปรุง แต่เขากลับมาห้ามประชาชนไม่ให้แสดงความคิดเห็น รวมทั้งใช้อำนาจ กฎหมายเพื่อมาดำเนินคดีกับนักศึกษาโดยไม่หาวิธีแก้ไขปัญหา ส่วนการที่มาชุมนุมนี้มันเป็นหน้าที่ของพลเมือง ที่จะมาแสดงความคิดเห็น เรียกร้องความยุติธรรม และแสดงจุดยืนที่จะต่อสู้เพื่อความถูกต้องในสังคม

“มันไม่ใช่หน้าที่ของนักเรียน-นักศึกษา แต่มันเป็นหน้าที่ของประชาชนคนไทยผู้ที่รัก และเคารพในประชาธิปไตย เราไม่ได้ออกมาในฐานะนักเรียน-นักศึกษา แต่เราออกมาในฐานะประชาชน”


แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ