ต่างประเทศ

'ยุโรป' ศูนย์กลางการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ทั่วโลก - สหรัฐฯประกาศภาวะฉุกเฉิน

โดย

14 มี.ค. 2563

1.4K views

องค์การอนามัยโลกประกาศว่า ยุโรปกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ทั่วโลก ขอให้ทุกประเทศใช้มาตรการเข้มงวด คุมเข้มนโยบายป้องกันภายในชุมชน และเว้นระยะห่างจากคนอื่น เพื่อรักษาชีวิต
ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ยังย้ำด้วยว่า อย่าปล่อยให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนไฟไหม้ฟาง
การประกาศดังกล่าวของอนามัยโลกมีขึ้นในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 หลายประเทศในยุโรปพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะอิตาลียอดผู้เสียชีวิตในแต่ละวัน พุ่งสูงไม่หยุด โดยช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเสียชีวิตเพิ่ม 250 คน ทำให้ยอดรวมตอนนี้อยู่ที่ 1,266 คน ขณะที่ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 2,500 คน ยอดรอดผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 17,660 คน
ขณะที่สเปน เป็นอีกหนึ่งประเทศในยุโรปที่สถานการณ์เลวร้ายที่สุดรองจากอิตาลี เมื่อวานนี้ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นร้อยละ 50 ไปอยู่ที่ 133 คนแล้ว ส่วนผู้ติดเชื้อ 5,232 คน
นายกรัฐมนตรีเปโดร ซันเชซ ของสเปน เตรียมประกาศภาวะฉุกเฉิน เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งจะมีผลในวันนี้ ผู้นำสเปนคาดว่า ในสัปดาห์หน้าสเปนอาจมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 หมื่นคน
ขณะที่ฝรั่งเศสผู้ติดเชื้อเมื่อวานนี้เพิ่มขึ้น 800 คน อยู่ที่ 3,661 คน เสียชีวิต 79 คน ส่วนเยอรมนีติดเชื้อ 3,675 คน เสียชีวิต 8 คน ขณะที่อังกฤษติดเชื้อเพิ่ม 590 คน รวมผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 798 คน เสียชีวิต 11 คน
ส่วนประเทศอื่นๆในยุโรป ยูเครนประกาศปิดพรมแดนไม่ให้ชาวต่างชาติเข้าประเทศสองสัปดาห์
ขณะที่นายแอนตินิโอ้ กูเตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติกล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกของการประกาศสงครามกับโควิด-19 พวกเราต้องร่วมกันรับผิดชอบเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และว่า สหประชาชาติยืนยันในจุดยืนความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับประเทศทุกประเทศที่ได้รับผลกระทบ เราจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน
โดย กูเตร์เรส ได้ร้องขอเจ้าหน้าที่ยูเอ็น 3 พันคนที่อาคารสำนักงานใหญ่ในนครนิวยอร์ก ให้ทำงานที่บ้านเป็นเวลา 3 อาทิตย์ โดยเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่จะถึงนี้ ยกเว้นเจ้าหน้าที่ที่จำเป็น
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติแล้ว เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด นายน์ทีน ในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น
การประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติของทรัมป์มีขึ้นเมื่อวานนี้(13 มี.ค.) เพื่อให้รัฐบาลกลางนำงบประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มาช่วยด้านการบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน ทั้งด้านสาธารณสุขและชุดตรวจไวรัสที่จะจัดส่งอย่างทั่วถึง หลังจากที่รัฐบาลถูกโจมตีอย่างหนักว่า ปฏิบัติงานอย่างเชื่องช้า โดยชุดทดสอบไวรัสนี้ จะจัดส่งไปตามจุดต่างๆทั่วประเทศประมาณ 5 แสนชุดในต้นสัปดาห์หน้าก่อนในเบื้องต้น
ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้ทวีตข้อความว่า เขาจะอนุมัติร่างกฏหมายเยียวยาชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบจากโควิด นายน์ทีน โดยตรง โดยเร็วที่สุด ซึ่งร่างกฏหมายที่ว่านี้มีชื่อว่า "กฏหมายรับมือโคโรน่าไวรัส ฉบับแรกที่เกี่ยวกับครอบครัว" โดยชาวอเมริกันจะได้รับการตรวจหาเชื้อฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ส่วนพนักงานที่ต้องหยุดงานเนื่องจากติดเชื้อ หรือต้องหยุดงาน ก็จะได้รับค่าใช้จ่ายและการดูแล จะส่งเสริมโครงการอาหาร และจะดูแลครอบคลุมไปจนถึงธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบด้วย
ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐฯเตือนว่า สหรัฐฯควรเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์และพนักงานควรทำงานที่บ้านเป็นเวลา 8 สัปดาห์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ทั้งนี้สหรัฐฯพบผู้ติดเชื้อแล้ว 2,285 คน เสียชีวิต 48 คน
ตอนนี้หลายรัฐในสหรัฐฯเริ่มใช้มาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาด ทั้งปิดโรงเรียนและห้ามการรวมตัวกันของประชาชนเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงยกเลิกการแข่งขันกีฬาหลายชนิด
ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้ประกาศให้บริษัทเรือสำราญ 4 แห่งระงับการให้บริการเป็นเวลา 30 วันด้วย
ประธานาธิบดีทรัมป์ยังเผยด้วยว่า เขาอาจจะเข้ารับการตรวจโคโรน่าไวรัส หรือ โควิด-19 หลังจากที่มีหลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมทรัมป์ถึงยังไม่ยอมตรวจร่างกายซะที การยอมตรวจร่างกายของทรัมป์มีขึ้นหลังจากที่นายฟาบิโอ ไวการ์เต่น (Fabio Wajngarten) โฆษกประธานาธิบดีบราซิล ที่อยู่ใกล้ชิดเขา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่รัฐฟลอริด้า ตรวจพบว่า ติดเชื้อ
ในส่วนของประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ผู้นำบราซิล บอกว่า ผลตรวจร่างกายของเขาออกมาแล้ว เขาไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 โบลโซนารู ยังได้โพสต์ผลตรวจลงเฟซบุ๊กของตัวเอง เพื่อยืนยันว่า เขาไม่ได้ติดเชื้อ และบอกประชาชนว่า อย่าไปเชื่อข่าวปลอม โดยก่อนหน้านี้มีสื่อท้องถิ่นบราซิลรายงานว่า ผลตรวจของประธานาธิบดีโบลโซนารู เป็นบวก

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ