เศรษฐกิจ

นักลงทุนกุมขมับ หุ้นตกทั่วโลก ไทยใช้ 'เซอร์กิตเบรกเกอร์' ครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์ ลุ้นหนัก 'ศุกร์13'

โดย

13 มี.ค. 2563

2.9K views

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ ของสหรัฐอเมริกา ปิดตลาดปรับลดลง -2352.60 คิดเป็น -9.99% ถือเป็นการร่วงหนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 1987 ขณะที่แนสแด็ค ร่วงลง -750.25 คิดเป็น -9.43% และเอสแอนด์พี 500 ร่วง -260.74 คิดเป็น 9.51%

ทั้งนี้การปิดตลาดหุ้นในสหรัฐฯ ที่ถึงแม้ระหว่างวันจะมีมาตรการเซอร์กิต เบรกเกอร์ เพราะตลาดร่วงลงแรงเกิดไป และไม่ใช่เพียงแค่หุ้นที่ปรับตัวลง น้ำมันและทองคำ ก็ปรับลดลงเช่นเดียวกันอย่างราคาน้ำมันไนเม็กซ์ ปรับลดลง -6.03% ปิดตัวที่ 30.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล์ ขณะที่ราคาทองคำโคเม็กซ์ ก็ปรับลดลง -4.04% ปิดตัวที่ 1575.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ขณะการปิดตลาดหุ้นไทยวานนี้ (12 มี.ค.63) เรียกได้ว่าเลือดแดงฉานไปทั้งตลาด ถึงขนาดต้องเปิดเซอร์กิตเบรกเกอร์ ครั้งแรกในรอบ 11 ปี 4 เดือน โดยการปิดตัวเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นร่วงลง -134.98 มาอยู่ที่ระดับ 1,114.91 จุด ลดลง -10.08% มูลค่าการซื้อขาย 101,652.04 ล้านบาท

โดยการเปิดเซอร์กิตเบรกเกอร์ในตลาดหุ้นไทยนั้น จะเปิดก็ต่อเมื่อการซื้อขายหุ้นมีการปรับลดลงอย่างรุนแรงมากกว่า 10% จะหยุดการซื้อขาย 30 นาที และเมื่อมากกว่า 20% จะหยุดการซื้อขาย 1 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นได้เคยใช้มาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์ 4 ด้วยกัน โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในวันที่ 19 ธ.ค. 2549 ตลาดหุ้นไทยในขณะนั้นปรับตัวลดลง 10.14% สาเหตุจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยใช้มาตรการกันสำรอง 30% สกัดเก็งกำไรค่าเงินบาท

ต่อมา 10 ต.ค. 2551  ตลาดหุ้นไทยในขณะนั้นปรับตัวลดลง 10.02% สาเหตุจากความกังวลผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลก จาก 'วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์' ส่งคลื่นความวิตกไปทั่วโลก

27 ต.ค. 2551 ตลาดหุ้นไทยในขณะนั้นปรับตัวลดลง 10.14% สาเหตุจากวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ และล่าสุดเมื่อวานนี้ 12 มี.ค. 2563 ตลาดหุ้นไทยปรับลดลง 10% จากความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของ COVID-19 รุนแรงทั่วโลก

โดยเมื่อย้อนดูตัวเลขดัชนีตลาดหุ้นไทยสิ้นปี 2562 จะอยู่ที่ 1,579.84 จุด เทียบกับการปิดตลาดเมื่อวานนี้ปิดที่ 1114.91 จุด เท่ากับตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงจากสิ้นปี -464.93 หรือ -29.43%

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/_L4iENewz4g

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ