ที่แท้ฝีมือพ่อค้าโหดฆ่า 'ดาบตี๋' เหตุทะเลาะปมขับรถปาดหน้า คว้าเหล็กตีหัวสลบ ทิ้งร่างกลางถนนถูกรถเหยียบซ้ำ

จากกรณี ด.ต.สมพงศ์ ชำนาญศิลป์ หรือ ดาบตี๋ อายุ 48  ปี ผบ.หมู่ป้องกันปราบปราม สภ.สำนักทอง ระยอง ถูกฆาตกรรมอำพรางทิ้งศพไว้กลางถนนหวังให้รถทับเป็นอุบัติเหตุ ก่อนถึงทางแยกวัดคลองทุเรียน สภาพศพพบบาดแผลถูกฟันเข้ากกหูขวาเป็นแผลฉกรรจ์ และมีบาดแผลถูกทุบตีและฟันเข้าที่บริเวณลำตัวอีกหลายแผล 

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวานนี้ (9 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดระยอง และชุดสืบสวน สภ.บ้านกร่ำ จับกุมคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุฆ่า ด.ต.สมพงศ์ ได้แล้วคือนายเพชร พิมเสน อายุ 47 ปี  โดยจับได้ที่บ้านพัก ในพื้นที่ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง พร้อมยึดรถยนต์กระบะ อีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์เงิน ซึ่งเป็นรถของผู้ต้องหา และท่อนเหล็กแป๊บยาวประมาณ 23 นื้ว จำนวน 1 ท่อน อาวุธของกลางที่ใช้ก่อเหตุ

ส่วนนายคมสันต์ อินยา อายุ 27 ปี น้องชายคนละพ่อ และ น.ส.จรรยา ราแรง อายุ 36 ปี ภรรยาของนายเพชร ซึ่งอยู่ในรถขณะเกิดเหตุกับผู้ต้องหาด้วย เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวมาสอบปากคำที่ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง พร้อมกับนายเพชร  และนำมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.บ้านกร่ำ

ก่อนคุมตัวนายเพชร ไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 2 จุด โดยจุดแรกก่อนถึงโรงเรียนบ้านวังหิน บนถนนสุขุมวิท ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง เป็นจุดที่นายเพชร ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถกลับจากการขายเครื่องไฟฟ้าที่ตลาดนัดเขาไร่ยา จ.จันทบุรี พร้อมด้วย น.ส.จรรยา ซึ่งเป็นภรรยา และนายคมสันต์ โดยไม่ได้ดื่มสุรา

โดย ด.ต.สมพงศ์ ขับรถปาดหน้ารถของตนก่อน ตนจึงบีบแตรไล่รถเพื่อเรียกให้จอด แต่ ด.ต.สมพงศ์ ไม่จอด จึงขับรถตามประกบรถยนต์กระบะของ ด.ต.สมพงศ์ เปิดกระจกด่าทอมีปากเสียงกัน โดยไม่มีใครลงจากรถตนด่าว่า “ทำไมมึงขับรถแบบนี้” ด.ต.สมพงศ์ ก็พูดว่า “มึงรีบไปเลยเดี๋ยวกูยิงตายห่าหมดเลย” ต่างคนต่างโมโห ขณะนั้น ด.ต.สมพงศ์ มีอาการมึนเมา ไม่รู้ว่าผู้ตายเป็นตำรวจ คิดว่าเป็นจิ๊กโก๋จึงพูดตอบไปว่า “มึงแน่นักเหรอ”

จากนั้นได้นำตัวไปทำแผนจุดที่ 2 บนถนนสุขุมวิท ก่อนถึงทางเข้าวัดคลองทุเรียน ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง ห่างจากจุดแรกประมาณ 15 กิโลเมตร  ซึ่งเป็นจุดที่นายเพชร ให้การว่า หลังขับรถแยกจาก ด.ต.สมพงศ์ ตรงจุดแรกแล้วเพื่อจะกลับบ้าน คิดว่าเรื่องน่าจะจบแล้ว

แต่ ด.ต.สมพงศ์ ได้ขับรถตามมา ชี้ให้ตนจอดรถ ตนเองก็จอด โดย ด.ต.สมพงศ์ เดินถือเหล็กมาทำร้าย ตนเองก็มีท่อนเหล็กเหมือนกันเก็บมาจากตลาดนัดไว้ขันชะเนาะ จึงตีเพื่อต่อสู้ป้องกันตัว โดยตีไปที่ศีรษะ 3 ครั้ง โดนจุดสำคัญจนสลบกลางถนน ตนเองก็โดนตีเช่นกันเป็นรอยฟกช้ำบริเวณลำตัวและแขน

ส่วนนายคมสันต์ และ น.ส.จรรยา นั่งอยู่ภายในรถ ไม่ได้ลงมาร่วมก่อเหตุหรือรุมทำร้ายด้วย ตนก่อเหตุเพียงคนเดียว ซึ่งขณะเกิดเหตุนายคมสันต์ ได้ลงจากรถมาเรียกโดยมีภรรยาเป็นคนห้ามปราม

หลังก่อเหตุปล่อยร่างของ ด.ต.สมพงศ์ นอนแน่นิ่งอยู่กลางถนน ขับรถกลับบ้านพักที่ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น ทราบภายหลังว่ามีรถบรรทุกวิ่งมาเหยียบทับร่าง ด.ต.สมพงศ์ เสียชีวิต

นายเพชร น้ำตาคลอ ระบุว่า “ผมไม่จงใจฆ่าอำพรางให้เป็นอุบัติเหตุ แค่เป็นการทำร้ายร่างกายกันบนถนน ตั้งใจจะมอบตัวอีก 1-2 วัน แต่มาถูกจับกุมได้เสียก่อน ส่วนท่อนเหล็กที่ใช้ก่อเหตุ นำติดตัวไปทิ้งป่าหญ้าใกล้กับบ้านพัก เพราะกลัวไม่คิดจะทำลายหลักฐาน ผมขอโทษครอบครัวผู้ตาย ผมไม่มีเจตนาทำร้ายใคร ผมเองก็มีลูกเหมือนกัน”

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม น.ส.จรรยา ภรรยาของผู้ต้องหาว่าขณะเกิดเหตุได้ห้ามปรามอะไรหรือไม่ และอยากจะพูดอะไรหรือไม่ น.ส.จรรยา ตอบว่า “ไม่มีอะไรจะพูดค่ะพี่”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุ้มกันอย่างแน่นหนา เนื่องจากมีญาติ ลูกน้องของดาบตี๋ และชาวบ้านมามามุงดูจำนวนมาก หวั่นรุมประชาทัณฑ์แต่ก็ไม่เกิดเหตุรุนแรงขึ้น ก่อนจะรีบนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถกลับไปที่โรงพัก

ขณะที่ พล.ต.ต.ธนาศักดิ์  ฤทธิเดชไพบูลย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เผยว่า หลักฐานสำคัญนำไปสู่การจับกุมคือกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ ประกอบกับร่องรอยบาดแผลบริเวณศีรษะของผู้ตายซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะเกิดอุบัติเหตุ จากการสอบสวนนายเพชร ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือรุมทำร้าย ด.ต.สมพงษ์ จริง สาเหตุเพราะขับรถปาดหน้ากัน ทำให้ต่างฝ่ายต่างไม่พอใจลงมือทำร้ายกันดังกล่าว

เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหากับนายเพชร ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เนื่องจากมีการใช้ท่อนเหล็กตีผู้ตายหลายครั้ง แต่ยังต้องรอผลตรวจจากแพทย์ว่าเสียชีวิตก่อนถูกรถทับ หรือเสียชีวิตหลังถูกรถทับ ยืนยันคดีนี้เป็นการทำร้ายร่างกายกันไม่ใช่จัดฉากฆ่าอำพราง และคดีไม่มีความซับซ้อน ส่วนคนขับรถบรรทุกที่ขับมาเหยียบทับร่าง ด.ต.สมพงศ์ ซ้ำจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/P7tq_7Wj9is