พระราชสำนัก

เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจแทนพระองค์ ที่จังหวัดพิษณุโลก

โดย

15 ก.พ. 2563

311 views

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจแทนพระองค์ ที่จังหวัดพิษณุโลก ดังนี้
วันนี้ เวลา 14 นาฬิกา 17 นาที  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จแทนพระองค์ ไปยังเรือนจำกลางพิษณุโลก อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ในการพระราชทานเครื่องมือแพทย์ตามโครงการราชทัณฑ์ ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ แก่เรือนจำกลางพิษณุโลก, เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก และทัณฑสถานหญิงพิษณุโลก ซึ่งเป็น 3 เรือนจำเป้าหมายของโครงการฯฃ
เพื่อให้ผู้ต้องขังได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียม มีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งกายและใจ พร้อมกันนี้ พระราชทานรถเอ็กซเรย์เคลื่อนที่แก่โรงพยาบาลพระพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก และโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรักษาผู้ต้องขังและประชาชน
โอกาสนี้ ทรงเปิดมุมสุขภาพ ราชทัณฑ์ ปันสุข ภายในอาคารพยายาล มีหนังสือพระราชทานและวีดิทัศน์ ในการดูแลตัวเอง ป้องกันและควบคุมโรค เพื่อให้ผู้ต้องขังได้เข้ามาศึกษาหาความรู้ นอกจากนี้ ยังพระราชทานแนวทางการทำงานในเชิงป้องกันอย่างเป็นระบบ นำรูปแบบของอาสาสมัครสาธารณสุข หรือ อสม.มาปรับใช้ในเรือนจำ ในรูปแบบของอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ หรือ อสรจ. ทำหน้าที่ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกัน และถ่ายทอดความรู้แก่ผู้ต้องขัง โดย อสจร.1 คน ทำหน้าที่ ดูแลผู้ต้องขัง 50 คน 
จากนั้น ทอดพระเนตรภายในห้องต่างๆ อาทิ ห้องตรวจตา, ห้องทันตกรรม, การสาธิตการช่วยเหลือผู้ป่วยเบื้องต้นของ อสรจ. เช่น การวัดสัญญาณชีพ ความดัน และชีพจร
ต่อจากนั้น ทรงพระดำเนินไปยังเรือนนอนผู้ต้องขังป่วย พระราชทานสิ่งของแก่ผู้ต้องขังป่วย และผู้ต้องขังชรา รวม 28 ราย แล้วทอดพระเนตร เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ได้พระราชทานแก่เรือนจำ ทั้ง 3 แห่ง รวม 60 รายการ, ทอดพระเนตรนิทรรศการโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ และนิทรรศการจิตอาสา เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ของเรือนจำและทัณฑสถาน พื้นที่เขต 6 รวม 9 จังหวัด, รวมถึงการฝึกอาชีพของผู้ต้องขัง และการแสดงในชุด งามพิษณุโลก และนาฏมวยไทย
เวลา 15 นาฬิกา 48 นาที เสด็จไปยังทัณฑสถานหญิงพิษณุโลก อำเภอวังทอง โอกาสนี้ทอดพระเนตรการดำเนินงานและกิจกรรมต่างๆ เช่น มุมสุขภาพ ราชทัณฑ์ ปันสุข ณ สถานพยาบาลฯ ซึ่งเป็นแหล่งความรู้ด้านสุขภาพแก่ผู้ต้องขังมีทั้งหนังสือเกี่ยวกับด้านสุขภาพ และวีดีทัศน์เกี่ยวกับการดูแลและปฎิบัติตน 
สถานพยาบาลยังมีอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ หรือ อสรจ. อยู่ประจำ 12 คน ทำหน้าที่ต่างๆในการช่วยเหลือ พยาบาล เช่น การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การช่วยทำกายภาพบำบัดแก่ผู้ต้องขัง เป็นการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย และในแต่ละเดือนจะมีนักกายภาพบำบัดจากโรงพยาบาลวังทองเข้ามาให้ความรู้ในการฟื้นฟู สุขภาพ แก่ผู้ต้องขังป่วย นอกจากนี้ยังมีห้องตรวจตา และห้องทันตกรรมซึ่งวันนี้ได้มีการสาธิตการขูดหินปูน 
โอกาสนี้ พระราชทานถุงพระราชทานแก่ผู้ต้องขังหญิงป่วย และผู้ต้องขังหญิงชรา จากนั้นทรงพระดำเนินไปยังห้องแม่และเด็ก พระราชทานถุงพระราชทานแก่เด็กติดผู้ต้องขังจำนวน 5 คน และผู้ต้องขังตั้งครรภ์ จำนวน 7 คน พร้อมทั้งมีพระปฏิสันถารและพระราชทานกำลังใจ
จากนั้นทรงพระดำเนินไปยังอาคารห้องสมุดพร้อมปัญญา ทอดพระเนตรนิทรรศการฝึกวิชาชีพ ซึ่งทัณฑสถานหญิงพิษณุโลกและส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมการส่งเสริมและฝึกอบรมงานวิชาชีพต่างๆแก่ผู้ต้องขัง เช่น งานจักสาน จากกระดาษ ตอกไม้ไผ่ และผักตบชวา เป็นผลิตภัณฑ์ เช่น ฝาชี ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทจักสาน ฝาชี ในการประกวดผลิตภัณฑ์ ประจำปี 2562 ของกรมราชทัณฑ์, นอกจากนี้ยังมีงานปักผ้าชาวเขา งานปั้นดินไทย เบเกอรี่ขนมไทย นวดแผนไทย ทอผ้า ซักรีด และเสริมสวย ซึ่งนอกจากผู้ต้องขังจะได้รับความรู้ ทักษะ ในการประกอบอาชีพแล้วยังมีรายได้จากเงินปันผลในการให้บริการงานวิชาชีพและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆเพื่อเป็นทุนสำรองในการประกอบอาชีพเมื่อพ้นโทษแล้ว 
ทัณฑสถานหญิงพิษณุโลก ยังได้รับพระราชทาน รางวัลชนะเลิศ กิจกรรมการประกวดเรือนจำดีเด่นด้านการฝึกอบรมวิชาชีพ เนื่องในโอกาสครบรอบ 12 ปีโครงการกำลังใจในพระดำริฯ และปัจจุบัน มีผู้ต้องราชทัณฑ์ จำนวน 1,015 คน
เวลา 17 นาฬิกา 19 นาที สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จไปยังโรงเรียนบ้านเขาสมอแคลง ริ้วศิริวัฒน์อุปถัมภ์ ในการพระราชทานอุปกรณ์กีฬา หนังสือ และสิ่งของเครื่องใช้พระราชทาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญไปพระราชทานแก่โรงเรียนที่ขาดแคลนในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 10 แห่ง 
ประกอบด้วย โรงเรียนบ้านเขาสมอแคลง ริ้วศิริวัฒน์อุปถัมภ์ ,โรงเรียนบ้านซำเตย ประกอบนงนุชอุปถัมภ์ ,โรงเรียนวัดดงข่อย ,โรงเรียนบ้านคลองเป็ด ,โรงเรียนราษฎร์อุปถัมภ์ ,โรงเรียนบ้านบึงพร้าว ,โรงเรียนบึงราชนก ,โรงเรียนวัดบางสะพาน ประพันธ์ชนานุสรณ์ ,โรงเรียนบ้านวังพรม และโรงเรียนคุรุประชาชนูทิศ วันครู 2506 ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความรู้ และพัฒนาการด้านการศึกษา ตลอดจนสุขภาพอนามัยให้แก่เด็กนักเรียน
ในการนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการและกิจกรรมผลงานนักเรียนของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งต่างน้อมนำพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในด้านการศึกษามาพัฒนาการเรียนการสอน มุ่งเน้นให้นักเรียนมีทัศนคติที่ดี ที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีอาชีพ และเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ โดยได้จัดทำโครงการโรงเรียนสุจริต เพื่อพัฒนานักเรียนให้มีทักษะการคิด มีความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย อยู่อย่างพอเพียง และมีจิตสาธารณะ 
อาทิ นิทรรศการโรงเรียนแกนนำส่งเสริมทักษะอาชีพ และบริษัทสร้างการดี ของโรงเรียนบ้านเขาสมอแคลง ริ้วศิริวัฒน์อุปถัมภ์ ที่จัดกิจกรรมตามรอยพ่อ..อยู่อย่างพอเพียง ดำเนินการในรูปแบบศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ให้ความรู้แก่เด็กนักเรียนและคนในชุมชน ซึ่งนอกจากการทำการเกษตร ปลูกพืชผัก และเลี้ยงสัตว์แล้ว ยังส่งเสริมความรู้เรื่องการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตต่างๆ อาทิ การทำผลิตภัณฑ์จากตะไคร้หอม การทำน้ำสมุนไพร และการทำข้าวต้มลูกโยน 
ส่วนโรงเรียนพิณพลราษฎร์ ตั้งตรงจิตร 12 ได้เสริมสร้างความรู้ด้านวิชาชีพการจัดทำร้านกาแฟ พินคอฟฟี่ ที่ได้รับการสนับสนุนจากวิทยาลัยอาชีวะศึกษาพิษณุโลกมาให้ความรู้แก่นักเรียน ตั้งแต่การใช้อุปกรณ์ และวิธีการชงการแฟประเภทต่างๆ เพื่อให้นักเรียนสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพ สร้างรายได้ให้กับตนเอง ซึ่งปัจจุบันได้ต่อยอดองค์ความรู้ในการผลิตผลิตภัณฑ์จากการกาแฟ อาทิ สบู่ และผงสครับ 
ในด้านวิชาการ ได้มีการส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักคิด วิเคราะห์ และกล้าแสดงออก อาทิ การสื่อสารภาษาต่างประเทศ ที่ทางโรงเรียนสะพาน 3 เน้นการสร้างเสริมความรู้ให้แก่เด็กตั้งแต่ชั้นอนุบาล โดยให้นักเรียนเรียนภาษากับครูชาวต่างชาติเพิ่มเติมวันละ 2 ชั่วโมง รวมทั้งจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ตลอดจนใช้สื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ และจดจำที่ยั่งยืน จนได้รับคัดเลือกให้เป็นโรงเรียนต้นแบบโครงการ English For All เด็กไทยพูดภาษาอังกฤษได้ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 
ด้านโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัยพิษณุโลก ส่งเสริมให้นักเรียนร่วมกันคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ อาทิ การประดิษฐ์เครื่องคัดแยกมะนาวและผลไม้ชนิดกลมแบบไม่ใช่ไฟฟ้า ที่สามารถใช้งานได้ง่าย ใช้งานได้จริง และมีต้นทุนการผลิตต่ำ นอกจากนี้ยังมีการผลิตภาชนะจากกล้วยน้ำว้า ที่สามารถใส่อาหารประเภทน้ำได้ และเมื่อเก็บไว้จะไม่มีการขึ้นรา ซึ่งจะสามารถช่วยลดปริมาณการใช้ภาชนะแบบพลาสติกและโฟมได้ รวมถึงสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับกล้วยน้ำว้า ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจพื้นถิ่นได้อีกด้วย 
ทั้งนี้ การดำเนินงานต่างๆ ล้วนเป็นการน้อมนำพระบรมราโชบาย เกี่ยวกับการศึกษา อบรม เด็กนักเรียนและเยาวชน โดยให้เน้นการสร้างคนดี มีคุณธรรม มีการศึกษาดี ไปสู่การปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน

แท็กที่เกี่ยวข้อง