สังคม

เดินหน้าเอาผิด 'เอกราช ช่างเหลา' ปมเงินสหกรณ์ครูขอนแก่นหาย 431 ล้าน

โดย

13 ก.พ. 2563

437 views

สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ถกเถียงกันอย่างหนักต่อกรณีเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครู 431 ล้านบาท ที่ถูกโอนเงินบัญชีนักการเมือง ซึ่งต้องการให้ตรวจสอบกรรมการทุกคนในอดีตและปัจจุบันที่เกี่ยวข้อง เพราะเข้าข่ายยักยอก ด้านประธานสหกรณ์ ยอมรับว่า นักการเมืองคนนี้ มาทำสัญญารับสภาพหนี้ ในฐานะผู้เกี่ยวข้องกับเงินที่หาย แต่การฟ้องร้องเอาผิดทางคดี ก็ยังเดินหน้าต่อไป
ผู้แทนสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ใช้เวทีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ในการถกเถียงและถามหาความโปร่งใส จากการบริหารงานของคณะกรรมการสหกรณ์ในอดีต โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2553 -54 เป็นต้นมา ที่เชื่อว่ามีเงินหายไปหลักพันล้านบาท แต่ภายหลังปรากฎหลักฐานที่ชัดเจน ว่าเงินราว 431 ล้านบาท ถูกโอนเข้าบัญชีนายเอกราช ช่างเหลา อดีตผู้จัดการสหกรณ์ ที่ขณะนี้เป็นสส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ 
การประชุมของผู้แทนสมาชิกสหกรณ์วันนี้ มีทั้งวาระรายงานผลดำเนินงาน ตรวจสอบกิจการประจำปี 2562 รวมถึงพิจารณาอนุมัตจัดสรรกำไร ตั้งงบประมาณ และการเลือกตั้งกรรมการเป็นต้น แต่ผู้เข้าร่วมหลายคนบอกว่า สงสัยคาใจเงินหาย จะได้คืนมาหรือไม่
ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า ภายหลังตรวจพบว่าเงินหายไปจากบัญชี 431 ล้าน ได้มอบฝ่ายกฎหมายแจ้งความเอาผิดนายเอกราช ช่างเหลา และกรรมการที่เกี่ยวข้อง กระทั่งปลายปีที่แล้ว นายเอกราช จึงนำโฉนดที่ดิน 10 แปลง คิดเป็นหลักทรัพย์รวม 169,710,750 บาท เป็นประกัน เพื่อคืนเงินให้ครบภายใน 27 ธันวาคมปีนี้ 
อย่างไรก็ตามเงิน 431ล้าน หายไปไม่ได้เกิดจากการกู้ยืม หรือหนี้เสีย จึงเกิดคำถามว่านายเอกราช จะรับสภาพหนี้ในฐานะใด ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ระบุเมื่อนายเอกราชรับสภาพหนี้ ก็เท่ากับรับว่าเป็นผู้เอางินไป 
สำหรับการดำเนินคดีนั้น สหกรณ์ออมทรัพย์มอบให้ทนายความแจ้งความร้องทุกข์ ที่สภ.เมืองขอนแก่น ซึ่งสอบปากคำไปแล้วหลายปาก ยกเว้นนายเอกราช ที่ต้องรอปิดสมัยประชุมสภา ส่วนการฟ้องต่อศาลโดยตรงนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของทนายความ
มีการตั้งข้อสงสัยว่า การจะฟ้องตรงต่อศาลทั้งคดีแพ่งและอาญานั้น กรรมการจะต้องมีมติร่วมกันก่อนว่าจะให้ทนายความฟ้อง ขณะเดียวกันก็ปรากฏว่ากรรมการชุดนี้ ที่จะลงมติว่าฟ้องหรือไม่ฟ้อง มีจำนวนเกินกว่าครึ่ง ที่เคยเป็นกรรมการในระหว่างปี 2553-2554 นั้น ที่จะถูกฟ้อง ข้อสังเกตนั้นจึงอยู่ที่ว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ ที่กรรมการจะลงมติให้ฟ้องตัวเอง แต่ข้อสงสัยนี้นายอนุศาสตร์ ระบุว่า มีระเบียบสหกรณ์กำกับไว้แล้ว ว่ากรรมการดังกล่าวจะยังมีบทบาทได้หรือไม่

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ