ข่าวภูมิภาค

หนุ่มกระบะโต้ คู่กรณีสมยอมเอง หลังสาวขี่จยย.ชนท้าย ร้องถูกลากเข้าป่าข่มขืน

โดย

13 ก.พ. 2563

1.1K views

ขอนแก่น-มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เล่ากรณีน้องสาวอายุ 21 ปี ที่มีอาการเมาเล็กน้อยหลังดื่มกินกับกลุ่มเพื่อน ได้ขี่ จยย.กลับบ้าน แต่เกิดอุบัติเหตุ ชนท้ายรถกระบะ น้องสาวได้รับบาดเจ็บ แต่ชายคู่กรณีวัย 25-30 ปี ไม่ให้ความช่วยเหลือ แทนที่จะพาส่งโรงพยาบาล กลับลากไปข่มขืนข้างทาง

พอไปแจ้งความกับตำรวจ ฝ่ายชายยอมรับสารภาพว่าข่มขืนจริง และผลการตรวจภายในก็ยืนยันว่าถูกข่มขืนจริง แต่ต่อมาตำรวจปล่อยตัวไป ทำให้เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

หลังเกิดเหตุคนขับรถยนต์เรียกญาติมาเคลียร์เรื่องอุบัติเหตุ และเห็นว่าหญิงผู้เสียหายมีอาการเมา จึงได้เรียกตำรวจมาที่เกิดเหตุ จะจ่ายค่าทำขวัญให้ 500 บาท แต่ตกลงกันไม่ได้ ตำรวจจึงให้ไปที่ สภ.สีชมพู และส่งไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่ รพ. พบปริมาณแอลกอฮอล์ ตำรวจจึงแจ้งข้อหากับฝ่ายหญิงในข้อหาเมาแล้วขับ และให้ไปเสียค่าปรับที่ศาล ซึ่งในเรื่องนี้ทางครอบครัวยอมรับ เพราะผู้เสียหายมีอาการเมาจริง

ต่อมาฝ่ายหญิงตัดสินใจบอกว่า ถูกคนขับรถยนต์ข่มขืนในป่าข้างทาง ใกล้จุดที่เกิดอุบัติเหตุ พี่สาวจึงได้แจ้งตำรวจ ตำรวจจึงนำตัวคนขับรถยนต์ไปสอบสวน ซึ่งคนขับรถยนต์ก็รับสารภาพว่า ข่มขืนจริง ตำรวจได้ส่งตัวฝ่ายหญิงไปตรวจภายในที่รพ.สีชมพูอีกครั้ง ซึ่งแพทย์ก็บอกว่า พบคราบอสุจิและมีร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศจริง

แต่ตำรวจก็ปล่อยตัวคนขับรถไป โดยไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ ทั้งยังบอกกับทางครอบครัวว่า ไม่มีพยานหลักฐาน ไม่สามารถจับกุมตัวได้ จึงเป็นที่คลางแคลงใจเป็นอย่างมากว่า คนร้ายรับสารภาพต่อหน้าแท้ๆ ยังไม่สามารถทำอะไรได้ และยังไม่มีการสอบปากคำ ไม่มีการรับแจ้งความใดๆ ทางครอบครัวจึงจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.จำรัส ไชยศักดิ์ ผกก.สภ.สีชมพู กล่าวถึงความคืบหน้าทางคดีว่า ได้เรียกตัวชายดังกล่าวมาสอบปากคำในส่วนที่หญิงสาววัย 21 ปี คู่กรณีในอุบัติเหตุดังกล่าวแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ และได้ทำการแจ้งข้อหา ข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งเบื้องต้นชายผู้ถูกกล่าวหาให้การภาคเสธ ยอมรับว่ามีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวรายนี้จริง แต่ฝ่ายหญิงสมยอม

พร้อมกันนี้ได้ให้ทางหญิงสาวคู่กรณีไปตรวจร่างกายหาสารคัดหลั่ง เพื่อมาประกอบสำนวนในคดีดังกล่าว คาดว่าผลตรวจเร็วสุดจะออกภายในสัปดาห์หน้า และทางตำรวจจะลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้งว่าในบริเวณดังกล่าวมีบ้านเรือนประชาชน หรือใครพบเห็นเหตุการณ์ก็จะเชิญมาสอบสวนเพื่อประกอบสำนวนคดี ยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ถูกผิดขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานตามกฎหมายโดยอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด

ทั้งนี้จากการตรวจสอบ พบว่าฝ่ายหญิงมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดอยู่ที่ 100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงได้แจ้งข้อหาในส่วนของเมาแล้วขับ ส่วนฝ่ายชายไม่พบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด และต่อมาฝ่ายหญิงได้กล่าวโทษว่ามีการกระทำชำเรา ทางพนักงานสอบสวนจึงได้ดำเนินการในส่วนนี้เพิ่มเติมภายหลัง

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/JTFHNqV-06c

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ