‘ปิยบุตร’ เชื่อ ‘อนาคตใหม่’ ไม่ถูกยุบ ประกาศพร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภา

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย ส.ส.ของพรรค แถลงถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดีที่พรรคอนาคตใหม่กู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ว่า โดยแสดงความไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ เพราะการกล่าวหาในเรื่องนี้ไม่เข้าองค์ประกอบความผิด และยังอ้างว่าเป็นเงินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งไม่เคยเปิดโอกาสให้พรรคอนาคตใหม่ได้ต่อสู้ตามขั้นตอนของกฎหมาย ทำให้พรรคเสียโอกาสในการนำสืบพยานสำคัญในชั้นศาล

ซึ่งพยานบุคคลที่พรรคเตรียมเอาไว้ 17 ราย หลายรายเป็นเจ้าหน้าที่ของ กกต.ที่มีความเห็นว่า พรรคอนาคตใหม่ไม่มีความผิดสามารถกู้เงินได้ และหลายรายเป็นเจ้าหน้าที่ของ กกต.ที่ยกคำร้องดังกล่าวในชั้นอนุกรรมการไต่สวน ซึ่งพรรคต้องการให้พยานบุคคลเหล่านี้ เข้ามาพิสูจน์ในชั้นศาลและมาชี้แจงต่อหน้าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ยังอยากให้ศาลเรียกเอกสารหลุดของ กกต.มาพิจารณา พิสูจน์ข้อเท็จจริง ว่าเป็นเอกสารของกกต.หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงเชื่อมั่นในความยุติธรรม และเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างถูกต้องและเป็นธรรม

พรรคอนาคตใหม่ยังตั้งข้อสังเกต ถึงการกำหนดวันนัดอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า เกิดขึ้นหลังจากที่มีการกำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว เหมือนเป็นความพยายามที่จะไม่ให้พรรคอนาคตใหม่ได้ร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจ 6 รัฐมนตรี และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า จะเกิดการยุบพรรคอนาคตใหม่ขึ้นจริง เพื่อต้องการตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค และทำให้เสียงของพรรคร่วมฝ่ายค้านหายไป โดยให้ ส.ส.ของพรรคบางส่วนย้ายไปสังกัดพรรครัฐบาล แก้ปัญหารัฐบาลเสียงปริ่มน้ำได้ ดังนั้น วิธีการต่อสู้ที่ดีที่สุด คือ ต้องทำให้การยุบพรรคไม่บรรลุเป้าหมาย และให้ ส.ส.ของพรรคได้อภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นครั้งแรกในนามพรรคอนาคตใหม่

และหากมีการยุบพรรคเกิดขึ้นจริง ส.ส.ของพรรคก็จะยังคงเดินหน้าอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีอย่างจริงจังและแข็งขันต่อไป ซึ่งตนเองและนายธนาธร จะเดินสายอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้ง 6 คนนอกสภา เพื่อผสมผสานกับสมาชิกที่อยู่ในสภาต่อไป โดยยืนยันว่า ข้อมูลที่พรรคอนาคตใหม่มีอยู่เป็นข้อมูลใหม่ ที่ไม่เคยเปิดเผยต่อสื่อมวลชนมาก่อน และจะเป็นข้อมูลที่ทำให้รัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งไม่ได้ รวมทั้งรัฐบาลเสียความชอบธรรม

นายปิยบุตร ยืนยันว่า กรรมการบริหารพรรคทั้งหมดก็จะไม่มีการลาออก เพื่อเปิดทางให้มี ส.ส.มาแทน เพราะการลาออก คือ การยอมจำนนต่อการยุบพรรคในครั้งนี้