อาชญากรรม

ผบ.ตร.ล็อกเป้าคนร้ายกราดยิงชิงทอง แต่ยังรอหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มัดตัว

โดย

17 ม.ค. 2563

1.4K views

เหตุจี้ชิงทอง ยิง 3 ศพในห้างสรรพสินค้า ที่ลพบุรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า ยังไม่ได้ออกหมายจับใคร แต่ยืนยันว่า ตำรวจล็อคเป้ากลุ่มผู้ต้องสงสัยไว้แล้วตั้งแต่วันแรก ๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ เตือนคนที่คอยให้ความช่วยเหลือ จะถูกดำเนินคดี ฐานรู้เห็นและให้ที่พักพิง 
พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังประชุม นานกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ในห้างสรรพสินค้า จังหวัดลพบุรี ก่อนเปิดเผยว่า วันนี้แบ่งหน้างานความรับผิดชอบเกี่ยวกับคดีให้ชัดเจนเป็น 25 หน้างาน เพื่อไม่ทำงานซ้ำซ้อนกัน และกระจายหาหลักฐานรวมทั้งหาตัวคนร้าย 
ยอมรับว่าการจับกุมคนร้ายไม่ใช่เรื่องง่าย แม้จะมีเป้าหมายตั้งแต่วันแรก เนื่องจากพยานหลักฐานต้องชัดเจน และการออกหมายจับจะต้องใช้พยานหลักฐานที่มีน้ำหนักแน่นหนา แม้คดีนี้จะรู้รายละเอียดบางอย่างแล้ว แต่ต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์มามัดตัวคนร้าย เพื่อป้องกันข้อครหาการจับแพะ
ส่วนกรณีลูกหลานนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งที่อาจจะเกี่ยวข้อง ก็ได้เข้าให้ข้อมูลกับตำรวจแล้ว แต่ตำรวจมีเป้าอยู่ในใจ แค่รอพิสูจน์ทราบ
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังพูดเล่นกับสื่อมวลชนว่า จะมีข่าวดีการจับกุมคนร้ายเร็วๆนี้ ขอเวลาอีก 2 วัน คือวันคู่ และวันคี่ ขณะที่ผู้สื่อข่าวจากส่วนกลางถามว่าควรจะกลับกรุงเทพได้หรือยัง เพราะมาเกาะติดคดีนานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกเพียงว่า "อยากกลับก็กลับ ก็แล้วแต่นะ ตกข่าวไม่รู้นะ"
ด้านพลตำรวจเอกชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า จากสื่อที่นำเสนอข่าวและคลิปต่างๆขณะก่อเหตุ จะเห็นพฤติกรรมและตำหนิรูปพรรณสัณฐานคนร้ายชัดเจน คนใกล้ชิดจะรู้ว่าคนร้ายคือใคร จึงควรออกมาให้ข้อมูลกับตำรวจ โดยมีรางวัลนำจับตอนนี้กว่า 6 แสนบาท และจะปกปิดไว้เป็นความลับสำหรับผู้ที่มาแจ้งเบาะแส พร้อมอยากให้คนใกล้ชิดที่รู้จักเห็นแก่สังคม ไม่ควรปกป้องคนร้าน หากพบใครให้ที่พักพิงหรือช่วยเหลือ ก็จะต้องถูกดำเนินคดี
ทั้งนี้ หนึ่งในหลักฐานที่ตำรวจต้องการคือกล้องวงจรปิด เนื่องจากในวันเกิดเหตุ ช่วงเวลาที่คนร้ายใช้เส้นทางที่คาดว่าหลบหนี มีรถของประชาชนที่มาร่วมงานศพ ขับสวนออกมาบริเวณหน้าวัดพอดี ซึ่งภาพจากกล้องหน้ารถยังไม่ชัดเจน หากบุคคลใดมีภาพที่ชัดเจนขอให้นำมาให้ตำรวจ 
นอกจากตำหนิรูปพรรณ อีกหนึ่งเบาะแสที่ตำรวจ ใช้เป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้าย ก็คือ รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่าฟีโน่ สีขาว-แดง  เจ้าของร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์หลายราย ในเมืองลพบุรี บอกว่า รถรุ่นนี้เป็นรุ่นยอดนิยม ขายดีมาก  และได้ส่งข้อมูลผู้ซื้อรถทั้งหมดให้ตำรวจไปแล้ว ส่วนคนร้ายจะเปลี่ยนสีรถ ก็อาจเป็นไปได้ แต่ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง เพราะต้องถอดชิ้นส่วนออกทั้งคัน หากจะติดสติ๊กเกอร์สีเพื่อปิดสีเดิม ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร ซึ่งร้านแต่งรถจักรยานยนต์ในลพบุรีก็มีอยู่จำนวนมาก

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ