เลือกตั้งและการเมือง

ฟัง 2 ด้านกลุ่มผู้เข้าร่วมกิจกรรม 'วิ่งไล่ลุง - เดินเชียร์ลุง'

โดย

12 ม.ค. 2563

3.7K views

ข่าว 3 มิติพบว่ากลุ่มคนที่มาร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุงนั้นมีหลากหลาย นอกจากกลุ่มประชาชนวัยกลางคน สูงอายุ ที่เคยร่วมชุมนุมการเมืองทั้งเสื้อแดงและกปปส.ส่วนใหญ่จะเป็นคนรุ่นใหม่ ที่เมื่อสอบถามต่างบอกว่ามาชุมนุมครั้งแรก และเห็นว่าการวิ่งเป็นกิจกรรมการเมืองที่สร้างสรรค์ และแสดงออกทางความคิดได้อย่างเสรี ส่วนเหตุผลที่มาร่วมวิ่งเพื่อแสดงพลังให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่ไม่ได้เก่งแต่ในโซเซียล และไม่เห็นด้วยกับเผด็จการ
นอกจากนี้มีอดีตกปปส.ที่นำนกหวีดหรือสิ่งของที่เคยร่วมชุมนุมมาแลกเหรียญปราบกบฏ ที่ทางผู้จัดงานจัดขึ้น ซึ่งพบว่ามีทั้งเด็ก ผู้หญิง ผู้ใหญ่ และนักกิจกรรมที่เคยร่วมกับ กปปส.นำมาแลกจำนวนหนึ่ง ต่างมีเหตุผลตรงกันว่า 5 ปีที่ผ่านมาผิดหวังกับการปฏิรูประเทศที่สุดท้ายเป็นเพียงการสืบทอดอำนาจคสช.
ในจำนวนคนรุ่นใหม่ที่ประกาศชัดว่าไม่เห็นด้วยกับเผด็จการ และมีจุดยืนในระบอบประชาธิปไตยก็เชื่อมั่นว่า การรวมตัวของคนวิ่งไล่ลุง ไม่ใช่การเมืองแบบสีเสื้อ แต่เป็นการเมืองของประชาชน 
สำหรับผู้มาร่วมเดินเชียร์ลุง ยืนยันว่าไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มผู้ใหญ่มาร่วมชุมนุม แต่มีทั้งวัยกลางคนและคนรุ่นใหม่ ซึ่งบางคนยอมรับว่า เคยร่วมชุมนุม กปปส. แต่ไม่ได้มีการจัดตั้งจากระบบไอโอของรัฐบาล แต่ต่างมาด้วยจุดยืนที่เห็นว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมารัฐบาลมีผลงานมากมายทั่งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การสร้างรถไฟฟ้า จึงอยากให้ทุกฝ่ายยอมรับความคิดต่าง 
สำหรับการเดินเชียร์ลุงเป็นการเดินรอบสวนลุมพีนี กิจกรรมเป็นไปอย่างคึกคักมีการชูป้ายสนับสนันพลเอกประยุทธ์ โดยมี อุ๊ หฤทัย ม่วงบุญศรี มาร่วมด้วย ซึ่งยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับการเรียร้องประชาธิปไตยในแบบผูกมัด
กิจกรรมการเดินเชียร์ลุง พบว่ามีการแต่งเพลงเพื่อสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ และต่างเป็นการแสดงออกทางความคิดเห็นทางการเมืองที่ยังอยู่ในสวน และพร้อมจะรวมตัวกันอีกทุกครั้งที่อีกฝ่ายจัดกิจกรรม การเมืองไทยวันนี้จึงปฏิเสธไม่ได้ต่อการกลับมาของสองความเห็นทางการเมือง
ความเคลื่อนไหวการเมืองสำคัญวันนี้คือการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง และ เดินเชียร์ลุง ที่กลุ่มวิ่งไล่ลุง ที่ขับไล่รัฐบาล รวมตัวหลักที่สวนรถไฟ ส่วนกลุ่มเดินเชียร์ลุง ที่สนับสนุนรัฐบาล จัดกิจกรรมที่สวนลุมพินี ซึ่งต่างแสดงจุดยืนทางการเมือง โดยไม่มีเหตุความรุนแรงใดๆ โดยกลุ่มวิ่งไล่ลุง จัดพร้อมกัน 34 จังหวัด จะจัดครั้งที่สองที่จังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่กลุ่มเดินเชียร์ลุงก็ประกาศว่าหากอีกกลุ่มจัดก็พร้อมจะจัดควบคู่กันไป
กิจกรรมวิ่งไล่ลุง ที่จัดขึ้นโดยแกนนำกลุ่มนักศึกษา เริ่มตั้งแต่ 5 นาฬิกาวันนี้ที่สวนรถไฟ เสร็จสิ้นในเวลา 9 นาฬิกา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นาย ธนวัฒน์ วงค์ไชย แกนนำจัดกิจกรรม "วิ่งไล่ลุง" กล่าวขอบคุณประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมที่เกินความคาดหมาย และมีอุปสรรคในการจัดงาน แต่เห็นพลังของประชาชนที่ต้องการแสดงออกว่า วิ่งไล่การเมืองแบบลุงๆ ไล่ความอยุติธรรม สองมาตรฐาน ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม และ รัฐบาลที่บริหารไม่เป็น จึงเชิญชวนทุกคนวิ่งไล่ลุงทุกวัน เพื่อไล่ลุงให้ออกไปในปีนี้ โดยกิจกรรมวิ่งไล่ลุงจะจัดขึ้นอีกครั้ง ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่จังหวัดเชียงใหม่
การวิ่งไล่ลุงในกรุงเทพมีนักกิจกรรมประชาธิปไตย และนักการเมืองฝ่ายค้านมาร่วมวิ่งด้วย โดยเฉพาะนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ต้องการมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์การเมือง ที่เชื่อว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับสู่ประชาธิปไตย ซึ่งก้าวแรกคือพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องออกไป และเชื่อว่าปีนี้จะมีประชาชนออกมาชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองมากขึ้น
สำหรับกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ในต่างจังหวัดที่จัดพร้อมกัน 34 จังหวัด คึกคักทั้งในภาคอีสาน ที่จังหวัดขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี มหาสานคาม ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา พิษณุโลก ภาคกลางทั้งนครนายก สระบุรี ปทุมธานี นนทบุรี ภาคใต้เช่น ชุมพร นครศรีธรรมราช และปัตตานี ซึ่งมีประชาชนมาร่วมวิ่งไล่ลุกอย่างคึกคัก ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่บอกว่าต้องการเรียกร้องประชาธิปไตย
ขณะที่กิจกรรมเดินเชียร์ลุง ที่สวนลุมพินี กรุงเทพ มีประชาชนมาร่วมจำนวนมากเช่นกัน กิจกรรมจัดในช่วงเช้าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แอดมินเพจเชียร์ลุง ยืนยันว่า ไม่ใช่กลุ่มเด็กเส้น หรือได้รับการว่าจ้างให้มาสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่ทุกคนต่างมาจากการติดตามข่าวในเพจ จนมีเสียงเรียกร้องให้จัดกิจกรรม ซึ่งต้องขออนุญาตส่วนราชการขอใช้สถานที่ด้วยความลำบากเช่นกัน ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการจัดกิจกรรมของกลุ่มวิ่งไล่ลุง หากอีกกลุ่มจะจัดเมื่อใดก็พร้อมจัดควบคู่ไปด้วย
มีความเห็นมาจากรัฐบาล โดยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เห็นว่าทั้งสองกิจกรรม ทำได้ตามกฏหมาย แต่ไม่อยากให้นำกิจกรรมนี้ไปสู่การเมืองบนถนน เพราะได้ผ่านบทเรียนมาแล้ว เหมือน 10 ปีที่ผ่านมา จึงขอให้ใช้กลไกของสภาผู้แทนราษฏรในการร่วมสร้างประชาธิปไตย
สำหรับกิจกรรมทั้งสองกลุ่มวันนี้มีขึ้นท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งไม่มีเหตุรุนแรงใดๆเกิดขึ้น

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ