สังคม

ลุงขี่รถไถพาเมียไปรักษามะเร็ง ยันไม่ได้นำเงินบริจาคไปซื้อหญิงขายบริการ

โดย

9 ม.ค. 2563

2.9K views

ลุงขี่รถไถพาเมียไปรักษาโรคมะเร็งที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ยันไม่ได้นำเงินบริจาคไปเปิดโรงแรมหลับนอนกับหญิงขายบริการ อ้างถูกสาวตื้อแต่ไม่ได้ตกลง
จากกรณีที่มีผู้นำเรื่องราวมาโพสต์ในโลกออนไลน์ถึงชีวิตของลุงคนหนึ่งที่ขับรถไถนามาจาก อำเภอแก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อนำภรรยาที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และได้มากางเต็นท์อาศัยหลับนอนอยู่ข้างรถไถ บริเวณลานจอดรถของโรงพยาบาลฯ เพื่อเฝ้าภรรยาที่รักษาอาการป่วย ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา 
ส่งผลให้มีผู้ใจบุญที่พบเห็นข่าวพากันโอนเงินมาช่วยเหลือลุงตามบัญชีธนาคารที่มีคนโพสต์เอาไว้กันเป็นจำนวนมาก แต่ต่อมาได้มีคนพบเห็นลุงคนดังกล่าวนำเงินไปดื่มสุรา และพาหญิงสาวขายบริการไปเปิดโรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองโคราช โดยมีผู้ถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ และนำไปแชร์ต่อกันในโลกโซเชียล จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารเป็นอย่างมากในขณะนี้
ล่าสุด บ่ายวันนี้ (9 มกราคม 2563) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบกับลุงคนดังกล่าว ที่บริเวณลานจอดรถของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งพบว่ายังมีผู้ใจบุญนำสิ่งของ และเงินมาบริจาคให้กับคุณลุงอย่างต่อเนื่อง ทราบชื่อคุณลุงคือ นายสมพงษ์ หวัดวาปี อายุ 44 ปี ชาวตำบลบึงพะไล อำเภอแก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งลุงยังคงอยู่ในอาการมึนเมานอนอยู่บนเสื่อข้างรถไถ
จากการสอบถามนายสมพงษ์ เปิดเผยว่า ตนเองได้ขับรถไถพาภรรยาที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง มารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม เนื่องจากตนเองเป็นคนยากจน ไม่มีเงินเหมารถมา หลังจากนั้นก็ได้ใช้สิทธิ์บัตรทองเข้ารับการรักษา ซึ่งขณะนี้ต้องใช้การฉายรังสีให้ครบตามที่แพทย์กำหนดไว้ จึงยังไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ ดังนั้นตนเองจึงต้องกางเต๊นท์นอนเฝ้าภรรยาอยู่ที่บริเวณนี้ 
ต่อมาเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ก็ได้มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยคนหนึ่งมาพบเข้า และได้ถ่ายรูปตนเอง พร้อมกับขอเลขที่บัญชีธนาคารไปแล้วนำไปโพสต์ลงในโลกโซเชียล ทำให้มีผู้ใจบุญแห่นำของกินของใช้มาบริจาคมากมาย รวมทั้งยังมีคนโอนเงินบริจาคเข้ามาในบัญชีธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นชื่อภรรยาของตนเองอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีเงินเข้ากว่า 90,000 บาทแล้ว ส่วนที่มีคลิปหลุดออกไปในโลกโซเชียลว่า ตนพาหญิงขายบริการไปเปิดโรงแรมนอนนั้น 
ตนยอมรับว่า เมื่อคืนก่อนตนเองได้ไปเปิดโรงแรมบริเวณใกล้กับลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีเพื่อนอนพักจริง ในราคาคืนละ 300 บาท เพราะตรงนี้นอนไม่ค่อยหลับ แต่ยืนยันว่าไปเปิดห้องนอนคนเดียว ไม่ได้พาหญิงขายบริการไปนอนด้วย ส่วนภาพที่เห็นหญิงคนหนึ่งอ้างว่าไปนอนกับตนมานั้น ความจริงคือเขาพยายามชวนตนไปนอนด้วย แต่ตนเองไม่เอา เพราะสงสารภรรยาที่ป่วยอยู่ 
ซึ่งตอนนี้บัญชีธนาคาร และบัตร ATM ก็อยู่กับภรรยาของตนเอง โดยตนเองจะขอเงินมาไว้กับตัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และยอมรับว่าตนมีการดื่มสุราบ้าง แต่เป็นการซื้อมาดื่มทีละกั๊กสองกั๊กเท่านั้น ไม่ได้ซื้อมาดื่มเป็นขวดๆ แต่อย่างใด ส่วนเงินทั้งหมดก็จะใช้เพื่อรักษาภรรยาของตนเองจริงๆ

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ