เลือกตั้งและการเมือง

ส.ส.อนาคตใหม่ ชงสภาตัดงบซื้อเรือดำน้ำ แต่สุดท้ายงบกองทัพ 1.2 แสนล้าน ผ่านฉลุย 247 : 195 เสียง

โดย

9 ม.ค. 2563

1K views

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ในส่วนของมาตรา 8 งบกระทรวงกลาโหม พรรคฝ่านค้านอภิปรายเดือด ก่อนสุดท้ายที่ประชุมเสียงข้างมากมีมติ 247 ต่อ 195 เห็นชอบมาตรา 8 งบกองทัพ 1.2 แสนล้านบาท ผ่านฉลุย

โดย นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายประเด็นการจัดซื้อเรือดำน้ำ ว่าในปี 2560 สมัยรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อนุมัติจัดซื้อแล้ว 1 ลำ และในปีนี้ขอจัดซื้ออีก 2 ลำ ซึ่งหากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ผ่านความเห็นชอบจากสภา จะเกิดงบผูกพันจำนวน 22,500 ล้านบาท สภาจึงเป็นความหวังสุดท้ายของประชาชนที่จะสามารถหยุดผลพวงของการรัฐประหารชิ้นนี้ได้ เพื่อให้การใช้งบเป็นไปอย่างคุ้มค่า

สำหรับเรือดำน้ำรุ่นที่จะซื้อ เป็นเรือดำน้ำจากจีน รุ่น s-26T yuan class ทำไมต้องซื้อขนาดนี้ ทั้งที่อ่าวไทยตื้น และมีความลึกเฉลี่ย 40-50 เมตร แต่เรือดำน้ำดังกล่าวระดับความลึกปฏิบัติการน้อยสุด 50 เมตร ระดับความลึกปลอดภัย 60 เมตร อีกทั้งเท่าที่ทราบทหารเรือส่วนมากต้องการรุ่นอื่นที่ดีกว่านี้ ดังนั้นซื้อเรือดำน้ำไปปักเลนเพื่ออะไร มองว่าเรือรุ่นอื่นเหมาะสมกว่า ดังนั้นมองว่าทุกอย่างดูไร้เหตุผลสิ้นดี ไม่เอาเรือดำน้ำไปปักเลน อย่าปล่อยให้งบเรือดำน้ำผ่านสภา

ด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายประเด็นงบการเกณฑ์ทหาร ที่ตั้งไว้ 1 หมื่น 4 พันล้านบาท ว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมประเทศต้องมีทหารเกณฑ์ปีเดียวจำนวนมากขนาดนี้ แต่สุดท้ายมีการนำทหารเกณฑ์ไปใช้เป็นพลทหารบริการ หรือพลทหารรับใช้

จากจำนวนทหารเกณฑ์ 1.2 แสนนาย คิดเป็น 20.83% ที่ต้องไปทำหน้าที่บริการแทนที่จะไปถือปืน กลับต้องไปถือถาด ถือผ้าชาร์มัวขัดรถ ปลอกทุเรียน เลี้ยงนกเลี้ยงไก่ นายพลควรซักผ้าเองได้แล้ว ควรเอาทหารไปทำหน้าที่ทหาร ปกป้องประเทศ ลาดตระเวนเพื่อความมั่นคงของราชอาณาจักร

ส่วน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กมธ. สัดส่วนพรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ขอให้ปรับลดงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ออกไปทั้งหมดแบบ 100% เพราะที่มาของ พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่อขัดรัฐธรรมนูญ

ขณะที่ นายสันติ กีระนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ได้ชี้แจงว่า เรื่องซื้อเรือดำน้ำมาปักเลน ก่อนหน้าสหรัฐฯได้นำเรือ 7,500 ตัน มาซ้อมในไทยก็ไม่มีปัญหา และการจัดซื้อเรือดำน้ำ กองทัพเรือได้ช่วยประหยัดแล้ว จริง ๆ จำเป็นต้องซื้อ 3-4 ลำ เพราะเวียดนามมี 6 ลำ อินโดนีเซียมี 5 ลำ สิงคโปร์มี 4 ลำ มาเลเซียมี 2 ลำ เมียนมามี 2 ลำ ฟิลิปปินส์มี 3 ลำ เราต้องเตรียมแสนยานุภาพให้ทัดเทียม   

ทั้งนี้ สุดท้ายแล้วที่ประชุมเสียงข้างมาก มีมติ 247 ต่อ 195 งดออกเสียง 11 เห็นชอบมาตรา 8

ชมผ่านยูทูปได้ที่ :  https://youtu.be/tyElIlAAyuw

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ