ข่าวภูมิภาค
‘น้องนุ่น’ เหยื่อฝาท่อระเบิดอาการดีขึ้น ทีโอที เตรียมส่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางลงตรวจสอบเหตุอีกครั้ง
โดย
29 ธ.ค. 2562
446 views
จากกรณีเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างนครลำปางธรรมสถาน เดินทางไปตรวจสอบหลังรับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุฝาท่อเหล็ก ขนาด 150 กิโลกรัม กระเด็นขึ้นมาบนถนนท่าคราวน้อย หน้าตลาดสดอัศวิน เมืองลำปาง หลังจากฝาเหล็ก ตกใส่ร่างหญิงสาวได้รับบาดเจ็บ นอนสลบ บาดเจ็บสาหัส
ความคืบหน้าล่าสุด นางกุลธิดา นาถะพินธุ ผู้จัดการฝ่ายขายและบริการลูกค้าภาคเหนือที่ 1 นายสมภพ เวชตระกูล ผู้จัดการส่วนปฏิษัติการท่อไร้สาย บริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยพนักงานและทีมวิศกร ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณบ่อพักท่อสายสื่อสารจุดที่เกิดระเบิด โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการเปิดฝาท่อและทำการตักน้ำออกมา เบื้องต้นพบว่าระดับน้ำที่ไหลเข้ามาในท่อลดลงมาก เนื่องจาก จนท.ได้ทำการซีลเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าไปเมื่อวานนี้
นายสมภพ เวชตระกูล ผู้จัดการส่วนปฏิษัติการท่อไร้สาย เปิดเผยว่าเบื้องต้นจากการที่ตรวจสอบพบว่าทั้งเคเบิ้ลและระบบท่อยังคง ตอนนี้ได้ทำการอุดรอยรั่วไม่ให้น้ำเข้ามาในท่อ แต่โดยปกติน้ำก็สามารถเข้าได้อยู่แล้วต่อให้อุดยังไงน้ำก็เข้าถ้าหากมีฝนตกลงมาน้ำก็เข้าได้ มันเป็นระบบเปิดไม่ใช่ระบบปิดอย่างเดียวและปิดเพื่อป้องกันอุบัติเหตุเท่านั้น
โดยทั่วไปแล้วน้ำโอกาสที่จะเข้าท่อนี้น้อยมาก ประกอบกับท่อในลักษณะนี้ออกแบบเมื่อหลายสิบปีก่อน และขณะนี้ยอมรับว่ายังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง
ซึ่งหลังปีใหม่จะมีการส่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเจ้าตรวจสอบและเทสระบบท่อว่ามีการแตกหรือไม่ น้ำไหลจากช่วงกลางไหลลงมาไหม ตอนนี้ทาง พนักงานได้ตัดสัญญานออกบางส่วนแล้วเพื่อความสบายใจ แต่สายบางเส้นก็ยังคงเดินอยู่ และอีกไม่นานก็จะเปลี่ยนเป็นสายระบบออฟติคอลซึ่งเป็นระบบใหม่ ส่วนความร้อนก็ถือว่าปกติ หากร้อนจริงคงลงไปไม่ได้
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามอาการล่าสุดของน้องนุ่น อายุ 22 ปี โดยผู้เป็นแม่ระบุว่า อาการดีขึ้นตามลำดับ น้องนุ่นรู้สึกตัวแล้ว ให้ขยับหรือชูนิ้ว 2 นิ้ว ก็สามารถทำตามคำสั่งของคุณแม่ได้ทั้งหมด แต่แพทย์ยังคงต้องใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เพราะยังไม่สามาถถอดได้ เนื่องจากมีบาดแผลกว้าง บริเวณปากไปจนถึงใบหน้า ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างรอการพักฟื้น
ในส่วนของการเยียวยาของหน่วยงานที่เกียวข้อง คือทางบริษัททีโอที ได้เข้ามาช่วยเหลือ และผู้บริหาร เข้ามาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจตลอดเวลา เบื้องต้นได้มอบเงินเป็นค่าใช้จ่ายเยียวยาเป็นเงินก้อนแรก 30,000 บาท และจะเยียายาอย่างต่อเนื่อง
แท็กที่เกี่ยวข้อง
