พนง.เชื่อโรงงานปิด ล้างไพ่รับคนใหม่ นายกฯขออย่าเหมารวมปิดกิจการ เพราะปัญหา ศก. มีเปิดเพิ่มกว่า 3 เท่า

จากกรณีบริษัทพงศ์พาราโคดันรับเบอร์ จำกัด ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ประกาศปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงานอย่างกะทันหัน ด้วยเหตุผลที่ว่า บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องปิดกิจการอันสืบเนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางธุรกิจ โดยจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายให้แก่แรงงานทุกคน ซึ่งการปิดกิจการบริษัทฯ นี้ ให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป

จนส่งผลทำให้พนักงานหรือลูกจ้างของบริษัทฯ จำนวน 997 คน ต้องตกงานแบบฟ้าผ่า แล้วก็นำไปสู่การรวมตัวที่สหภาพแรงงานผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไทย เพื่อเรียกร้องคืนความเป็นธรรมให้แก่พนักงานหรือลูกจ้างทุกคนนั้น ล่าสุดยังมีบางส่วนปักหลักชุมนุม

โดยพนักงานหลายคนมองว่า การประกาศปิดกิจการครั้งนี้เป็นการปิดกิจการจริงหรือไม่ หรือเพียงแค่ปิดแล้วปลด เพื่อไปขอจดชื่อใหม่ ทำเหมือนกับเปิดโรงงานใหม่ทั้งที่ยังอยู่ในที่เดิม และรับคนงานใหม่ จะได้เป็นการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายเรื่องค่าจ้างของทางบริษัทฯ ซึ่งหากเป็นจริงก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ยุติธรรมเป็นอย่างมากกับพนักงานที่ถูกเลิกจ้างทั้ง 997 คน

ส่วนเหตุที่ไม่เชื่อว่าโรงงานปิดกิจการเพราะพิษเศรษฐกิจนั้น ก็เพราะว่าทางผู้บริหารบริษัทฯ ได้เคยทำในลักษณะนี้กับโรงงานอีกแห่งหนึ่งมาแล้ว พอปิดแล้วก็โล๊ะคนงานเก่าทั้งหมด จากนั้นก็ไปขอจดชื่อบริษัทใหม่ แล้วก็กลับมาเปิดใหม่อีกครั้งในที่เดิม พร้อมกับรับคนงานเข้ามาใหม่ด้วยอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำนั่นเอง นอกจากนี้ทางบริษัทฯ แห่งนี้ก็ยังมีผลกำไรทุกปี อีกทั้งยังมีการให้พนักงานทำงานล่วงเวลาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย จึงทำให้ทุกคนไม่เชื่อว่า บริษัทฯ ปิดกิจการเพราะแบกรับภาระในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำไม่ไหว

ด้านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงมาตราการรองรับปัญหาเศรษฐกิจ ที่หลายโรงงานทยอยปิดตัวทำให้มีคนตกงานเป็นจำนวนมากว่า รัฐบาลมีมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่จะทำให้ไตรมาส 4 เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งต่อให้ไตรมาส 1 ปี 2563 โดยจะเน้นเรื่องการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ที่มีหลายโครงการมูลค่ากว่าแสนล้านบาท ที่จะต้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว และใช้จ่ายเงินให้เหมาะสม ทั้งสกุลเงินบาทและสกุลเงินอื่นๆ เพื่อแก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็งด้วย

ซึ่งทุกคนต้องช่วยกัน ยอมรับปัญหาเศรษฐกิจกระทบกับภาพรวมเศรษฐกิจทั้งหมด ซึ่งที่มีการปิดโรงงาน 1,480 แห่ง แต่บางธุรกิจก็สมัครใจปิด จึงไม่อยากให้เหมารวมว่าเกิดมาจากปัญหาเศรษฐกิจทั้งหมด เพราะอาจจะสู้ต้นทุนหรือพัฒนาสินค้าไม่ได้ จึงจำเป็นต้องปิด

ขณะเดียวกัน มีการเปิดโรงงานเพิ่มอีก 3 เท่า มีการจ้างงานใหม่ จำนวน 178,733 คน มูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้นแสนล้านบาท ดังนั้นแรงงานสามารถที่จะหมุนเวียนไปหางานที่อื่นได้ และจะต้องพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น และมองว่าการปิดกิจการถือว่าเป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจ เพราะบางที่พัฒนาตัวเองไม่ได้

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/8EZc7efVNQY