สังคม

ภัยแล้งทวีความรุนแรง! แม่น้ำสะแกกรัง วิกฤตหนัก - น้ำยมเริ่มแล้ง ชาวบ้านเร่งสร้างทำนบกักเก็บน้ำ

โดย

22 ธ.ค. 2562

2.4K views

สถานการณ์ภัยแล้งทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของ จังหวัดอุทัยธานี  โดยเฉพาะแม่น้ำสะแกกรัง นับว่าวิกฤตแล้งอย่างหนักในรอบ 50 ปี 
โดยระดับน้ำในแม่น้ำสะแกกรัง ล่าสุดได้ลดระระดับจนแห้งบางจุดน้ำไม่ถึงคอแทบจะเดินข้ามฝั่งได้ โดยระดับน้ำที่ลดลงจนเกือบแห้ง จากที่เห็นในภาพตั้งแต่บ้านน้ำตกผ่านไปยังวัดอุโปสถาราม หรือวัดโบสถ์ โบราณสถานที่และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดอุทัยธานีไปจนถึงหน้าศาลากลาง และสะพานพัฒนาภาคเหนือ 
ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวน้ำลดระดับจนน่าเป็นห่วง จนกระทบวิถีชีวิตของชุมชนชาวแพทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำที่มีมากว่า 250 ครัวเรือน และมีเรือนพักอาศัยค้างแห้งบนเนินดินอ่า 100 เรือนแพ หากติดค้างแห้งแห้งนานกว่านี้ลูกบวบไม้ไผ่ทุ่นลอยน้ำของเรือนแพจะได้รับความเสียไปทั้งหมด และการสัญจรทางเรือก็ได้รับความลำบาก การทำประมง และการเลี้ยงในกระชังก็ไม่สารถดำเนินกิจกรรมได้ตามปกติ ต้องสูญเสียรายได้เดือดร้อนกันอย่างหนักและมีความลำบากกันอย่างถ้วนหน้า
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือแพโบสถ์น้ำที่ชาวอุทัยธานีได้ร่วมกันสร้างขึ้นเพื่อรอรับการเสด็จประภาสต้นของรัชกาลที่ 5 ซึ่งมีการชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา และมีการบูรณซ่อมแซมเพื่อให้คงสภาพดังเดิมมาอย่างต่อเนื่อง และการบูรณซ่อมแซมครั้งล่าสุดมาเมื่อไม่กี่ปีนี้เองโดยกรมศิลปกร และเด่นสง่าสวยงามอยู่ริมแม่น้ำแกกรังฝั่งวัดอุโปสถาราม 
ซึ่งปัจจุบันแพโบสถ์น้ำแห่งไว้ใช้ในการดำเนินกิจกรรมทางพุทธศาสนา และการศึกษาวิถีชีวิตของชุมชนชาวแพ และงานสืบสานประเพณีลอยกระทงเป็นต้น และหากแพโบสถ์น้ำติดค้างแห้งเป็นวานานจะส่งผลให้ลูกบวบไม้ไผ่ของแพแห้งผุกร่อน และจะทำให้พังยุบ 
ทางด้านพระเดชา ปุญวโร เป็นพระลูกวัด วัดอุโปสถาราม หรือวัดโบสถ์ ที่พาผู้สื่อข่าวไปดูสภาพของแพโบสถ์น้ำ บอกว่าไม่เคยเห็นน้ำในแม่น้ำแกรังแห้งขนาดนี้มาก่อน และแพโบสถ์น้ำที่ค้างแห้งมานาน และหากยังแห้งต่อไปอีก แพลูกบวบก็จะได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นจะเห็นได้ว่าเริ่มได้รับความเสียหายและลูกบวบไม้ไผ่แห่งผุกร่อนกำลังยุบตัว ตัวโครงสร้างเริ่มเอียงหากพังยุบลงมาจะทำให้เสียหายทั้งหลังอย่างแน่นอน ทางเดียวที่จะคงสภาพไว้ได้ต้องมีน้ำเท่านั้น 
จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ และหาทางแก้ไขเฉพาะหน้าโดยเฉพาะการค้ำพยุงแพโบสถ์น้ำไม่ให้พังยุบลงมา หรือมีการผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยามาเติมให้อยู่ในระดับลอยน้ำได้
ขณะที่สถานการณ์ภัยแล้ง ใน จ.แพร่ ที่ท่าน้ำยม บ้านวังหลวง ใกล้กับศาลเจ้าพ่อพญาแก้ว ม.4 ต.วังหลวง อ.หนองม่วงไข่ ชาวบ้านทั้งตำบล ได้ร่วมกันสร้างทำนบกระสอบทรายกั้นน้ำยม เพื่อกักเก็บน้ำใช้ในการบริโภค ระบบประปาหมู่บ้าน และใช้ในการเกษตร ซึ่งปริมาณน้ำยมเริ่มลดลง จนอาจทำให้ประปาหมู่บ้านไม่สามารถสูบมาใช้ได้ 
นายณัฐกานต์ จันทนู กำนันตำบลวังหลวง ประสานทางสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย จ.แพร่ นำกระสอบทราย และรถเครื่องจักรมาตักทรายซึ่งจัดสรรงบประมาณมาสร้างทำนบกระสอบทราย และขอใช้แรงงานจากชาวบ้านระดมช่วยกันปิดกั้นลำน้ำยมในครั้งนี้
นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เผยว่า ปัจจุบันมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินทั้งหมด 13 จังหวัด 
โดยเป็นภาคเหนือ 3 จังหวัด รวม 20 อำเภอ คือ จ.เชียงราย, จ.น่าน, จ.เพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 31 อำเภอ ใน 7 จังหวัด คือ จ.นครพนม, จ.มหาสารคาม, จ.บึงกาฬ, จ.หนองคาย, จ.บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ และนครราชสีมา ส่วน  ภาคกลางรวม 16 อำเภอใน 3 จังหวัด คือ จ.กาญจนบุรี จ.ฉะเชิงเทรา จ.อุทัยธานี 
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/lhmwZxXPHM8

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ