สังคม-อาชญากรรม

ฝากขังเดี่ยว 'สมคิด พุ่มพวง' วงจรปิด เผยไม่สะท้านเดี๋ยวนั่งยิ้ม เดี๋ยวหน้าบึ้งคนเดียว-เปิดใจแฟนสาวอีกคน

โดย

21 ธ.ค. 2562

16K views

ฝากขังเดี่ยว 'สมคิด พุ่มพวง' ห้ามคุยกับใคร กล้องวงจรปิด เผยเจ้าตัวไม่สะท้านเดี๋ยวนั่งยิ้ม เดี๋ยวน่าบึ้ง-เปิดใจแฟนสาวอีกคน
กรณีนายสมคิด พุ่มพวง ก่อเหตุฆาตกรต่อเนื่องหลายจังหวัด หลังตำรวจจับกุมได้ที่สถานีรถไฟปากช่อง จ.นครราชสีมา จนนำมาสู่การทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และส่งตัวเข้าฝากขังที่เรือนจำขอนแก่น
วานนี้ (20 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายสมคิดพุ่มพวง ออกจากห้องคุมขัง ไปสอบปากคำเพิ่มเติม โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสมคิดมีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส บางช่วงก็นิ่งขรึม ซึ่งนับว่าเป็นท่าทีที่ไม่สะทกสะท้านเลย 
โดยหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายสมคิดไปฝากขังผัดแรกที่ศาล จ.ขอนแก่น ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเข้มงวด จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออำนาจศาลฝากขังผัดแรก เป็นเวลา 12 วันเพื่อทำการสอบสวนทางคดี โดยศาล จ.ขอนแก่น ได้รับคำร้องดังกล่าว ก่อนมีคำสั่งรับฟ้องและไม่อนุญาตให้ประกันในชั้นศาล
จากนั้นเจ้าหน้าที่เรือนจำกลาง จ.ขอนแก่น ได้นำรถมารับตัวนายสมคิด ไปทำการควบคุมผัดแรกตามคำสั่งของศาล จ.ขอนแก่น ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่นทันที
ทั้งนี้มีรายว่ามีชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกว่า 100 คน ไปยืนดักรออยูที่หน้า สภ.กระนวน ทำให้จังหวะที่นำตัวนายสมคิดส่งศาลค่อนข้างชุลมุน 
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายไพสันต์ ขุ่ยรานหญ้า ผู้อำนวยการที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น ว่า หลังรับตัวนายสมคิด พุ่มพวงมายังที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น หรือเรือนจำพิเศษขอนแก่น ก็ได้ดำเนินการตรวจสอบตามขบวนกาของกรมราชทัณฑ์ทั้งการซักประวัติ และการตรวจสุขภาพร่างกาย ซึ่งนายสมคิดก็เป็นผู้ต้องขังทั่วไปที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล นายสมคิดถูกขังเดี่ยว ใส่ตรวนและมีวงจรปิดดูความเคลื่อนไหวตลอดเวลา ห้ามพูดคุยกับนักโทษรายอื่นเด็ดขาด จนกว่าจะมีคำตัดสินของศาล จึงจะถูกย้ายไปอยู่ที่เรือนจำกลางขอนแก่น ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนปกติของกรมราชทัณฑ์ 
ขณะที่ น.ส.สุมาลี แฟนสาวและเกือบเป็นเหยื่อรายที่ 7 ของนายสมคิด เปิดใจว่า หลังจากมีกระแสข่าวออกไปว่าตนจะเป็นเหยื่อรายที่ 7 ของนายสมคิดนั้น ทำให้คนในครอบครัวเริ่มกังวล เครียดจนหลานต้องเข้าโรงพยาบาลกันเลย ข้อมูลความจริงตนได้ให้การกับตำรวจไปหมดแล้ว จนสามารถจับตัวนายสมคิดได้ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าตนจะเป็นเหยื่อรายที่ 7 นั้น ไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนั้น 
โดยได้เริ่มคบหากันตั้งแต่เมื่อเดือนมิ.ย.2562 หลังจากพบเจอกันที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่จ.นครราชสีมา ผ่านการแนะนำติดต่อของน.ส.แตง (นามสมมติ) หญิงสาวอีกรายที่นายสมคิด เคยไปทำทีตีสนิท แต่ว่าน.ส.แตงมีสามีอยู่แล้ว นายสมคิดจึงหันไปคบหากับตน ก่อนที่จะย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน โดยตนมีร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ในพื้นที่จ.ระยอง ระหว่างที่อยู่กินด้วยกันนั้น ไม่เคยทราบเลยว่านายสมคิดคือ ฆาตกรต่อเนื่องที่พ้นโทษออกมา เนื่องจากถูกนายสมคิดหลอกว่าเป็นทนายความ
ระหว่างที่นายสมคิด และตนใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันนั้น นายสมคิดแอบติดต่อกับผู้ตายผ่านเฟซบุ๊กที่ ตนสร้างขึ้นมา กระทั่งวันที่ 1 ธ.ค. นายสมคิดออกอุบายหลอกตนว่าจะไปทำงานด้านกฎหมายในภาคอีสาน พร้อมกับขี่รถจักรยานยนต์ของตน ออกมาจากบ้านพักในพื้นที่จ.ระยอง ก่อนจะเดินทางมาที่จ.ขอนแก่น หาผู้ตาย 
ทั้งนี้ตนไม่คิดว่าจะกลายเป็นเหยื่อได้ เพราะระหว่างที่อยู่ด้วยกันก็รักกันดี พูดจาดี น่าเชื่อถือ และบอกว่าเป็นทนายทำงานให้กับตำรวจ แต่ก็ไม่คิดว่าสุดท้ายจะเป็นแบบนี้ 
ขณะที่พลเมืองดีที่แจ้งข่าวจนนำมาสู่การจับกุมนายสมคิด ล่าสุดเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รับแจ้งจากเพจข่าวเพจหนึ่งว่า ลูกชายแท้ๆ ของนายสมคิดอีกคน ซึ่งไม่ใช่คนที่เพิ่งพ้นคุก โทรไปหาเพจข่าวดังกล่าวว่าให้ตนสบายใจได้ จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวอะไรเลยกับนายสมคิด รวมไปถึงญาติๆ ขณะนี้ก็ไม่มีใครสนใจอยู่แล้ว  ก่อนที่จะบอกว่าลูกชายที่เพิ่งพ้นคุกนั้นเป็นลูกติดภรรยาอีกคนของนายสมคิด  ซึ่งหลังออกจากคุกก็ไปทำงานและอาศัยกับพระที่วัดแห่งหนึ่ง 
ขณะนี้หลังจากที่แจ้งเบาะแสไปตนได้ใช้ชีวิตปกติ แต่กลัวว่าญาติๆ จะไม่ปลอดภัย ครอบครัว คนรอบข้างเครียด กังวล และเตือนตลอดเวลาว่าอย่าไปให้ข่าว อย่าบอกชื่อ อย่าเปิดหน้า เพราะไม่แน่นอนเกรงว่าถ้านายสมคิดพ้นโทษออกมาจะมาทำร้าย ทั้งนี้ตนต้องขอบอกว่าทุกวันนี้ใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้เครียดจนส่งผลกระทบกับจิตใจ และชีวิตประจำวัน คนเราทำดีทำไมต้องมาหลบอยู่ในมุมมืด 
สำหรับนายสมคิดนั้น พนักงานสอบสวนตั้งข้อกล่าวหา 3 ข้อกล่าวหา คือ กระทำความผิดข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ข้อหาซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย และข้อหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือร้บของโจร
โดยนายสมคิดให้การรับสารภาพว่าฆ่าผู้อื่น แต่ปฎิเสธว่าไม่ได้เจตนา และไตร่ตรอง ส่วนข้อหาอื่นๆ นั้นปฏิเสธทั้งหมด ซึ่งอย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนจะเร่งสอบสวน และเก็บพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งหมด ส่งสำนวนให้อัยการ จ.ขอนแก่น เพื่อพิจารณาสั่งฟ้องตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดต่อไป
ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/YqVuRH8IIr8

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ