เศรษฐกิจ

รัฐบาลโต้เก็บภาษีผ้าอนามัย ยันเป็นสินค้าควบคุม 'เกศปรียา' แจงผ้าอนามัยแบบสอดถูกจัดเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย

โดย

17 ธ.ค. 2562

9.2K views

จากกรณีที่ น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจให้ผ้าอนามัยเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยและเก็บภาษีในอัตราสูงถึง 40% และไม่มีการควบคุมราคา ทั้งที่เป็นสินค้าที่จำเป็นสำหรับผู้หญิง ส่งผลให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในทวิตเตอร์ จน #ภาษีผ้าอนามัย ขึ้นเทรนด์อันดับ 1

ในเวลาต่อมา นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ได้ออกมาชี้ถึงกรณีดังกล่าว ว่ากรมสรรพสามิตไม่มีพิกัดภาษีดังกล่าวอยู่ในฐานการจัดเก็บภาษีอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวข้องกับกรมในการพิจารณาเรื่องดังกล่าว และมองว่าผ้าอนามัย ถือว่าเป็นสินค้าจำเป็น ที่หากไม่ใช้จะกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชน ไม่ได้เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยแต่อย่างใด พร้อมกับย้ำว่า ปัจจุบันผ้าอนามัยเป็นสินค้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ แวต (VAT) ที่อัตราร้อยละ 7 ซึ่งจัดเก็บกับผู้บริโภคที่ใช้สินค้าดังกล่าวอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเชื่อว่าไม่น่าจะมีการจัดเก็บภาษีดังกล่าวในส่วนอื่นได้อีก

ด้านนายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ยืนยันว่าปัจจุบันผ้าอนามัยทุกชนิด ซึ่งรวมถึงผ้าอนามัยแบบสอดเป็นสินค้าควบคุมมาตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งสินค้าที่ได้รับการพิจารณาเป็นสินค้าควบคุม จะต้องเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการครองชีพของประชาชน รวมถึง มีราคาและปริมาณที่เคลื่อนไหวง่ายกว่าสินค้าประเภทอื่นๆ ในท้องตลาด

ด้านนายสรวุฒิ เนื่องจํานงค์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ ตั้งเป็นประเด็นว่าการที่ตัวแทนพรรคเพื่อชาติออกมาจุดประเด็นดังกล่าว ต้องการโจมตีทางการเมือง แนะนำให้กรมสรรพสามิต และกระทรวงการคลัง แจ้งความเอาผิด น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ เนื่องจากทำให้เกิดความวุ่นวายปั่นป่วยในสัคม และรัฐบาลถูกวิจารณ์ต่อว่าทั้งที่กระแสข่าวดังกล่าวไม่ใช่เรื่องจริง

ขณะที่ น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ ผู้จุดประเด็นเรื่องนี้ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊ก ชี้แจงในเวลาต่อมาว่า

เรียน สื่อมวลชนทุกท่าน

ประเด็นผ้าอนามัยเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยจากมติ ครม. วันที่ 17 เมษายน 2561 ดิฉันดูตามเอกสารจากเว็บ

http://www.oic.go.th/…/DRAWER…/GENERAL/DATA0000/00000302.PDF

ซึ่งสรุปสาระสำคัญของการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2561 หมวดกฏหมาย ข้อ 4 ระบุว่า ... ร่างกฏกระทรวงกำหนดผ้าอนามัยชนิดสอดเป็นเครื่องสำอาง พศ.....

เครื่องสำอางจัดเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ดังนั้นผ้าอนามัยแบบสอดจึงถูกจัดเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งในความคิดของดิฉันผ้าอนามัยทุกชนิดไม่ควรถูกกำหนดให้เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย เพราะเป็นสินค้าจำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตของสตรีทั้งโลก ดิฉันจึงออกมาตั้งข้อสังเกตถึงประเด็นข่าวในวันนี้ เพื่อให้เกิดการตระหนักรู้ และเพื่อป้องกันไม่ให้ผ้าอนามัยชนิดอื่นๆ ถูกกำหนดเป็นเครื่องสำอาง ซึ่งเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่จะสร้างภาระให้กับสตรีไทยทั้งประเทศ

แม้จะมีการชี้แจงว่า ผ้าอนามัย ถูกระบุใน พรก ว่าเป็นสินค้าควบคุม เเต่การที่ระบุว่าผ้าอนามัยเเบบสอดก็ยังไม่ถูกปลดออกจากสินค้าประเภทเครื่องสำอางซึ่งเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย อีกทั้ง พรก ดังกล่าว ยังมีผลบังคับใช่เพียง 1 ปี เท่านั้น ซึ่งจริงๆแล้วควรทำให้เป็นสินค้าควบคุมถาวร

ดิฉันให้ข้อมูลข่าวประเด็นนี้ในฐานะเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ก็อยากจะถามแทนสตรีทั้งประเทศเพื่อให้ได้คำชี้แจงจากทางรัฐบาลว่าทำไมถึงได้มีมติ ครม อนุมัติ เรื่องแบบนี้ ซึ่งถือเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นสำหรับสตรี

เกศปรียา แก้วแสนเมือง

โฆษกพรรคเพื่อชาติ

ชมผ่านยูทูปได้ที่ :  https://youtu.be/JlA2qYfmZ1Q

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ