เลือกตั้งและการเมือง

ครอบครัวชินวัตรเฮ! ศาลยกฟ้อง 'โอ๊ค พานทองแท้' คดีฟอกเงินกรุงไทย ชี้พยานหลักฐานไม่มีน้ำหนัก

โดย

26 พ.ย. 2562

3.1K views

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาคดีฟอกเงินทุจริตการปล่อยสินเชื่อของธนาคารกรุงไทย ให้ธุรกิจเครือกฤษดามหานคร ที่มีนายพานทองแท้ หรือโอ๊ค ชินวัตร อายุ 41 ปี บุตรชายคนโตของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5, 9, 60 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2558 มาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91

คดีนี้พนักงานอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 10 ต.ค.61 กรณีนายพานทองแท้รับโอนเงินเป็นเช็ค 10 ล้านบาทเข้าบัญชี โดยเงินนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำทุจริตปล่อยเงินกู้สินเชื่อระหว่างธนาคาร กรุงไทยกับกลุ่มกฤษดามหานคร ที่มีนายวิชัย กฤษดาธานนท์ อายุ 80 ปี ผู้บริหารกฤษดามหานคร กับนายรัชฎา กฤษดาธานนท์ อายุ 53 ปี บุตรชายนายวิชัย และอดีตคณะผู้บริหารธนาคารกรุงไทย เป็นจำเลยในคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

คดีดังกล่าวศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ให้จำคุกนายวิชัยและนายรัชฎาบุตรชายคนละ 12 ปี นอกจากนี้ นายวิชัย นายรัชฎา และกลุ่มอดีตกรรมการบริษัทเอกชนในเครือกฤษดา รวม 6 คน ยังถูกอัยการยื่นฟ้องในความผิดฐานฟอกเงินการปล่อยกู้ดังกล่าวต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบอีกด้วย โดยคดีของนายพานทองแท้จำเลยนั้นได้ให้การปฏิเสธ ไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้อง เงิน 10 ล้านบาทที่โอนเข้าบัญชีนั้นเป็นการร่วมลงทุนธุรกิจรถซุปเปอร์คาร์กับนายรัชฎาบุตรชายของนายวิชัย

ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่าผู้กระทำความผิดรับโอนเงินตามพระราชบัญญัติการฟอกเงินนั้น บุคคลนั้นต้องรู้ว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบ มีเพียงว่านายวิชัยคือผู้ถือหุ้นของกลุ่มกฤษดามหานครและนายรัชฎาบุตรชายมีความสนิทกับครอบครัว ของจำเลยซึ่งขณะนั้นนายทักษิณ ชินวัตร บิดาจำเลยเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นเพียงเพื่อนสนิทที่มีการใช้ชีวิตทำกิจกรรมคล้ายกัน การรับเช็คจากนายรัชฎามาเป็นเพียงเพื่อการลงทุนนำเข้ารถยนต์หรู ระหว่างที่นายพานทองแท้ได้รับโอนเงินมานั้นมีการเบิกถอนเงินคราวละ 5,000-20,000 บาทรวม 11 ครั้ง ไม่ได้เป็นพิรุธผิดสังเกต บัญชีดังกล่าวเป็นลักษณะเปิดเผยไม่มีลักษณะเป็นการอำพรางแหล่งที่มา สามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา

ขณะจำเลยรับโอนเงินมีอายุ 26 ปี จบการศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และมีทรัพย์สินมากกว่า 400 ล้านบาท เงิน 10 ล้านบาทที่ได้รับมาหากเทียบแล้วคิดเป็นเงินเพียง 0.025% เท่านั้น พยานโจทก์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง แต่ผู้พิพากษามีความเห็นแย้งเป็นผลร้ายแก่จำเลย ได้ทำความเห็นแย้งประกอบไว้ในคำพิพากษานี้

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า คดีนี้ในการประชุมปรึกษาเพื่อมีคำพิพากษา มีความเห็นแย้งกันเป็นสองฝ่ายจะหาเสียงข้างมากมิได้ จึงให้ผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยมากยอมเห็นด้วยผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 183, 184 ประกอบ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริต พ.ศ.2559 มาตรา 6 วรรคหนึ่ง

ผู้พิพากษาที่เห็นว่านายพานทองแท้มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เห็นควรให้จำคุก 4 ปี ทั้งนี้ได้มีการบันทึกความเห็นแย้งคำพิพากษานี้ไว้เพื่อพิจารณาต่อไปในชั้นศาลอุทธรณ์ด้วย

หลังฟังคำตัดสินนายพานทองแท้กล่าวว่า ขอบคุณทุกกำลังใจ เช่นเดียวคุณหญิงพจมาน ต่อมาเอม พินทองทา ได้โพสต์ภาพพี่ชาย พร้อมข้อความระบุว่า

“ขอขอบพระคุณทุกๆกำลังใจที่ส่งมาให้พวกเรา พวกเราทุกคนรับรู้และซาบซึ้งมากจริงๆ และขอขอบคุณครอบครัวของเราที่อบอุ่นและคอยดูแลประคองความรู้สึกกันตลอดไม่ว่าจะคุณแม่ที่อยู่ใกล้หรือรวมถึงคุณพ่อที่อยู่ไกลแต่กำลังใจส่งมาไม่ห่าง ในวันนี้ถือเป็นหนึ่งในข่าวดีที่สุดของครอบครัวเราเลย ขอบคุณทุกคนนะคะรวมถึงสื่อมวลชนทุกท่านด้วย”

ขณะที่อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร โพสต์ภาพพี่ชายเช่นกันพร้อมข้อความระบุว่า “ขอบพระคุณทุกคนสำหรับกำลังใจที่ส่งให้พี่ชายของเราในวันนี้ ที่ผ่านๆมา มันมีความหมายมากจริงๆสำหรับเรา ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองให้วันนี้มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นกับครอบครัวของเราค่ะ”

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/e7cJzUCD_fM

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ