บุกทลายแหล่งขาย ‘บุหรี่ไฟฟ้า-อุปกรณ์จัดฟันแฟชั่นเถื่อน' กลางตลาดใหญ่เมืองพัทยา

ที่ สภ.เมืองพัทยา พล.ต.ต.ญาณพงศ์ โสมาภา ผบก.สท. และ ส.ต.ท.เอกยุทธ ปล้องคง ผบ.หมู่ (ป.) สน.เพชรเกษม เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมด้วย พ.ต.ท.กรณ์ สมคะเณย์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.เนติธร รัตนสุชานันท์สวป.สภ เมืองพัทยา ทพ.ญ.พนิดา ชุมจันทร์ กรรมการอนุกรรมการคุ้มครองและช่วยเหลือผู้ป่วยทันตกรรม ทันตแพทยสภา 9 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์จัดฟันแฟชั่น จำนวน 2 คดี สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งจำนวน 3 คน

ประกอบด้วย นายอำนาจ ภูเงิน อายุ 24 ปี ชาว จ.สกลนคร น.ส.บุษกร โลกระโทก อายุ 29 ปี ชาว.นครราชสีมา และ นายชรินทร์ พรรณวิเชียร อายุ 25 ปี ชาว กทม. พร้อมของกลาง เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 107 ตัว เครื่องชาร์ตถ่านบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 4 กล่อง ถ่านบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 2 ก้อน หัวดูดบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 28หัว น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 451 ชิ้น และเงินสด จำนวน 9,140 บาท อุปกรณ์จัดฟันแฟชั่นรวมกว่า 200 ชิ้น หลังจับกุมผู้ต้องหาทั้งได้ที่ บริเวณตลาดการเคหะเทพประสิทธิ์ ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง ชลบุรี

พล.ต.ต.ญาณพงศ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ รวมถึงอุปกรณ์จัดฟันแฟชั่น เป็นจำนวนมากในพื้นที่เมืองพัทยา โดยเฉพาะในพื้นที่ตลาดการเคหะเทพประสิทธิ์ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ ทั้งนี้เมื่อไปถึงพบนายอำนาจ กำลังยืนขายบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ภายในตลาดดังกล่าวจึงแสดงตัวเข้าทำการจับกุมพร้อมกับตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ของกลางต่างๆภายในร้านไว้เป็นของกลาง

พล.ต.ต.ญาณพงศ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบภายในตลาดดังกล่าวเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังได้พบเห็น น.ส.บุษกร และนายชรินทร์ กำลังยืนจำหน่ายอุปกรณ์จัดฟันแฟชั่นอยู่หน้าร้าน จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุมเมื่อตรวจสอบภายในร้านจึงพบอุปกรณ์จัดฟันแฟชั่นจำนวนมากถูกตั้งวางอยู่แผงขายของภายในร้านดังกล่าวจึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมกับควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาทำการสอบปากคำ ยัง สภ.เมืองพัทยา

จากการสอบปากคำ นายอำนาจ ให้การรับสารภาพว่าร้านดังกล่าวเป็นของตนเอง โดยแอบลักลอบเปิดจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับวัยรุ่นในพื้นที่มานานหลายเดือนแล้ว จนกระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันเป็นผู้ขายหรือจัดหาด้วยประการใดๆ หรือเสนอ หรือชักชวนให้มีการขาย ให้บริการหรือจัดหาด้วยประการใดๆ ซึ่งสินค้าบุหรี่ไฟฟ้า หรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า โดยเรียกค่าตอบแทนเป็นเงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่นอันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558

ส่วนการสอบสวน น.ส.บุษกร และนายชรินทร์ ให้การรับสารภาพเช่นเดียวกัน โดยยอมรับว่าเป็นเจ้าของร้านลักลอบเปิดร้านจำหน่ายอุปกรณ์แฟชั่นมานานเกือบปี เนื่องจากเห็นว่ากระแสแฟชั่นจัดฟันยังคงเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น ประกอบกับเห็นว่าการจัดฟันแบบมาตรฐานตามคลินิกต่างๆนั้นมีค่าใช้จ่ายสูง การเปิดร้านดังกล่าวจึงน่าจะเป็ฯที่สนใจจากกลุ่มวัยรุ่นที่อยากจัดฟันแต่มีเงินไม่มากพอ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 1/2561 เรื่องห้ามขายสินค้าอุปกรณ์จัดฟันแฟชั่น ร่วมกันประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันประกอวิชาชีพทันตกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ด้าน ทพ.ญ.พนิดา กล่าวว่า สำหรับการจัดฟันแฟชั่นโดยไม่ที่ไม่ได้อยู่ในความดูแลจากทางทันตแพทย์ เสี่ยงต่ออันตรายถึงชีวิตได้ อย่าเห็นแก่ของถูก ถ้าหากสนใจหรือจำเป็นต้องทำการจัดฟันจริงๆก็ขอให้เข้ารับการรักษากับทางโรพยาบาลหรือคลินิกที่มีมาตรฐาน มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแลจะดีกว่า

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ :  https://youtu.be/kQZPMVcIgAI