เตรียมโบกมือลาแว่น! อย.สหรัฐฯ ไฟเขียวใช้ยาหยอดตาตัวแรก ทดแทนแว่นสายตายาว

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2564 นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา หรือเจ้าของบล็อก ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย เผยแพร่ข้อมูลงบนเว็บไซต์ blockdit ระบุว่า

“ข่าวดี !! ยาหยอดตาตัวแรกที่ทดแทนการใส่แว่นสายตายาวได้

จากกรณีผู้ที่อายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป มักมีปัญหาสายตายาวคือ มองไกลชัด แต่มองใกล้ไม่ชัดทั้งเวลาอ่านหนังสือและมองวัตถุใกล้ๆ ทำให้เกิดปัญหาขึ้นกับผู้ที่ไม่เคยใส่แว่นตามาก่อนตลอดชีวิต พอเริ่มมีสายตายาว ก็จำเป็นจะต้องใส่แว่น ไม่เช่นนั้นจะอ่านหนังสือไม่ได้ จึงเกิดความไม่สะดวก โดยคนเหล่านี้มักจะใส่ใส่ ถอดถอดแว่นเป็นประจำ ทำให้แว่นหาย หรือแว่นเสียหาย ต้องเสียเงินค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก

นอกจากนั้นบางคน ก็จะมีแว่นนับ 10 อัน วางไว้ตามที่ต่างๆในทุกห้องของบ้านหรือในที่ทำงาน เพื่อให้หยิบฉวยได้สะดวก เวลาต้องการใช้อ่านหนังสือ โดยแว่นสายตายาว จะมีปัญหาเมื่อสวมแล้วมองใกล้ชัด แต่มองไกลไม่ชัด จึงต้องถอดแว่นออกเวลามองไกล

จึงมีพัฒนาการต่อมา เป็นแว่นเลนส์ Progressive ที่ทำให้ทั้งมองใกล้และมองไกลได้ในอันเดียวกัน แต่ก็มีราคาแพงนับหมื่นบาท และที่สำคัญคือใส่ยาก ต้องปรับตัวในการมองใกล้ไกลด้วยแว่นอันเดียวกัน

ผู้มีสายตายาวทั่วโลก จึงมีความหวังร่วมกันว่า น่าจะมียาหยอดตาสักชนิดหนึ่ง ที่หยอดแล้วทำให้อ่านหนังสือมองใกล้ได้ชัด โดยที่ไม่ต้องใส่แว่น ขณะนี้มีข่าวดีมาก ที่ USFDA ได้อนุมัติยาหยอดตาตัวแรกชื่อ Vuity ซึ่งใช้ทดแทนแว่นสายตายาวได้

1) ยาหยอดตาดังกล่าวจะออกฤทธิ์ภายใน 15 นาทีหลังหยอด

2) หยอดตาครั้งหนึ่งแล้ว จะมองใกล้อ่านหนังสือชัดไปนาน 6-10 ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้สายตาในเวลากลางวัน

3) กลไกในการออกฤทธิ์ คือลดขนาดรูม่านตาลง ทำให้สามารถปรับโฟกัสสายตามองใกล้ได้

4) มีผลข้างเคียงอยู่บ้าง ในบางรายอาจปวดศรีษะหรือมีตาแดง

5) จะได้ผลดีในคนอายุ 40-55 ปี ในคนอายุ 65 ปีขึ้นไป ได้ผลดีค่อนข้างน้อย

6) อาจจะต้องมีการปรับตัวเรื่องการมองใกล้มองไกลสักระยะหนึ่ง

7) จะต้องระวังเวลาใช้สายตาตอนกลางคืน หรือสถานที่มีแสงน้อย เพราะธรรมชาติจะทำให้ม่านตามนุษย์ขยายตัวเพื่อรับแสงเพิ่มขึ้น แต่ถ้าใช้ยาดังกล่าวการขยายตัวของม่านตาจะไม่ค่อยดี

8) ยาหนึ่งขวดใช้ได้ 30 วัน มีราคา 80 เหรียญสหรัฐ วันหนึ่งประมาณเกือบ 3 เหรียญ

9) ได้มีการทดลองในอาสาสมัครแล้ว 750 คน ได้ผลดี

นับเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่มีสายตายาว แต่ไม่อยากสวมแว่น เพราะรำคาญ ลืมแว่น หรือทำแว่นหายเป็นประจำ ก็จะได้ลองใช้ยาตัวนี้ทดแทนการใส่แว่น ซึ่งจะมีผลกับผู้คนนับล้านคนทั่วโลก ที่จะได้รับความสะดวกมากขึ้น

อย่างไรก็ดี เนื่องจากเป็นยาตัวใหม่ที่เพิ่งวิจัยพัฒนาสำเร็จ แม้ USFDA อนุมัติให้ใช้ได้แล้วก็ตาม จะต้องมีการติดตามผลข้างเคียงหลังจากวางตลาดแล้วในระยะยาวกันต่อไป ว่าจะมีผลกระทบอย่างไรหรือไม่ เช่นเดียวกับยารักษาโรคชนิดอื่นๆทุกตัวที่ได้รับการอนุมัติ”