นักวิเคราะห์มอง หลัง 'ทรัมป์' ยกเว้นภาษีนำเข้า สมาร์ทโฟน-อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ประกาศยกเว้นภาษีแบบตอบโต้กับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำคัญหลายรายการจากทุกประเทศ รวมถึงจีน ที่ถูกตั้งกำแพงภาษีสินค้าสูงสุดถึง 145% หลังบริษัทเทคหลายแห่งออกมาแสดงความกังวล ว่ามาตรการภาษีดังกล่าวจะทำให้ราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มสูงขึ้น


หน่วยงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ หรือ CBP ได้ระบุในเอกสารเกี่ยวกับสินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษี ซึ่งมีทั้งหมด 20 รายการ เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ เซมิคอนดักเตอร์ โซล่าเซลล์ อุปกรณ์จอแสดงภาพอิเล็กทรอนิกส์ แฟลชไดรฟ์ การ์ดหน่วยความจำ และเมมโมรีการ์ด โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา


แม้ประกาศดังกล่าวจะไม่ได้ระบุเหตุผลที่แน่ชัด แต่การยกเว้นภาษีครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสงครามการค้าที่ดุเดือดระหว่างสหรัฐฯกับจีน โดยสหรัฐฯเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนสูงถึง 145% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงมากและอาจเพิ่มต้นทุนสินค้านำเข้าอย่างมากให้กับบริษัทเทครายใหญ่ของสหรัฐฯ จนต้องมีการเพิ่มราคาสินค้าหรือแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น ในขณะที่จีนก็ตอบโต้ด้วยการกำหนดภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ สูงถึง 125%


ด้านนักวิเคราะห์ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า ประกาศล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐฯ ถือเป็นข่าวดีที่สุดในช่วงสุดสัปดาห์นี้ แม้จะมีความไม่แน่นอนและความผันผวน แต่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายแห่ง เช่น แอปเปิล, อินวิเดีย และไมโครซอฟ สามารถหายใจได้โล่งขึ้น


ความเคลื่อนไหวนี้ยังส่งผลดีต่อการนำเข้าจากประเทศอื่นด้วย โดยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้จะได้รับการยกเว้นจากภาษีขั้นพื้นฐาน 10% ที่ทรัมป์ประกาศใช้กับหลาย ๆ ประเทศ


อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยืนยันว่า ภาษี 20% เดิมที่เรียกเก็บจากสินค้าจีนทั้งหมดจากประเด็นวิกฤตเฟนทานิลยังคงมีผลอยู่ และทรัมป์กำลังเตรียมเปิดการสอบสวนทางการค้าด้านความมั่นคงเกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งอาจนำไปสู่การเก็บภาษีระลอกใหม่ได้


โฆษกทำเนียบขาว แคโรไลน์ เลวิตต์ ย้ำว่า ทรัมป์ต้องการให้สหรัฐฯ ลดการพึ่งพาการผลิตเทคโนโลยีสำคัญจากจีน และกำลังผลักดันให้บริษัทเทคฯใหญ่ ๆ ย้ายฐานการผลิตกลับสู่สหรัฐฯ โดยเร็วที่สุด


แม้จะประกาศสงครามภาษี แต่ทรัมป์ยังคงรักษาความสัมพันธ์อันดีกับผู้นำธุรกิจเทคโนโลยี โดย ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิล ได้เข้าพบทรัมป์หลายครั้ง ขณะเดียวกันทรัมป์ก็เผชิญแรงกดดันจากภายในพรรครีพับลิกันเองที่กังวลว่าสงครามการค้าอาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และส่งผลเสียต่อการเลือกตั้งกลางเทอมในปีหน้า


การยกเว้นภาษีครั้งนี้ถูกมองว่า เป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลของทรัมป์เริ่มตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้บริโภคชาวอเมริกันที่กำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้ออยู่แล้ว


นักวิเคราะห์เคยประเมินว่า หากต้องเสียภาษีเต็มจำนวน ราคาไอโฟนรุ่นท็อปอาจพุ่งสูงจาก 1,599 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 53,000 บาท) เป็น 2,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 77,000 บาท) ซึ่งตามข้อมูลระบุว่า ในปี 2567 สมาร์ทโฟนเป็นสินค้านำเข้าจากจีน อันดับ 1 ของสหรัฐฯ โดยมีมูลค่าสูงถึง 41,700 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.3 ล้านล้านบาท) ตามมาด้วยแล็ปท็อป ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 33,100 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.1 ล้านล้านบาท)


ขณะเดียวกัน เมื่อเร็ว ๆ มานี้ มีรายงานออกมาว่า บริษัทแอปเปิลได้เช่าเหมาลำเครื่องบินเพื่อขนส่งไอโฟนจำนวน 1.5 ล้านเครื่องจากอินเดียเข้าไปในสหรัฐฯ หลังมีการเพิ่มการผลิตให้มากขึ้นเพื่อพยายามหลีกเลี่ยงมาตรการภาษีของทรัมป์


อย่างไรก้ดี ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ชะลอการบังคับใช้มาตรการภาษีแบบตอบโต้กับประเทศคู่ค้าออกไป 90 วัน ยกเว้นจีน แต่ยังคงอัตราภาษี 10% เอาไว้เหมือนเดิมในขณะที่ประเทศต่าง ๆ กำลังพยายามหาทางเข้ามาเจรจาเรื่องภาษีกับรัฐบาลสหรัฐฯ


ประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งใช้เวลาในช่วงสุดสัปดาห์ที่บ้านพักในรัฐฟลอริดา ได้บอกกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เขารู้สึกสบายใจกับอัตราภาษีที่สูงขึ้นที่ประกาศใช้กับจีน แต่เขาก็ยืนยันว่าเขายังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และเชื่อว่าจะมีผลลัพธ์เชิงบวกเกิดขึ้นจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างกัน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/H-tswPPIZzA