เวียดนามเตรียมเสนอเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ 0% หลังถูก 'ทรัมป์' ประกาศเก็บภาษีเพิ่ม 46%

เพียง 2 วันหลังจากสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากเวียดนามสูงถึง 46% เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม นายโต เลิม ได้ต่อสายตรงถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์พร้อมยื่นข้อเสนอสุดน่าสนใจ คือ เวียดนามพร้อมเจรจาลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ เหลือ 0%

การสนทนาทางโทรศัพท์มีขึ้นเมื่อวานนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความจริงจังของเวียดนามในการหาทางออกให้กับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในครั้งนี้

โดยนายโต เลิม เน้นย้ำว่าเวียดนามเต็มใจเปิดโต๊ะเจรจาเพื่อลดภาษีสินค้าสหรัฐฯ ให้เหลือศูนย์แต่ก็เรียกร้องให้ "สหรัฐฯ ดำเนินการในลักษณะเดียวกัน" กับสินค้าส่งออกของเวียดนามด้วย

นอกจากนี้ เวียดนามยังแสดงความตั้งใจที่จะเพิ่มการนำเข้าจากสหรัฐฯ และพร้อมอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนอเมริกันเข้ามาลงทุนมากขึ้น

ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันว่าจะมีการหารือเพื่อลงนามข้อตกลงที่เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุดเพื่อยืนยันคำมั่นสัญญาเหล่านี้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้โพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์มทรูธโซเชียลว่า “เพิ่งได้คุยโทรศัพท์กับนายโต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เขาได้บอกกับผมว่าเวียดนามต้องการลดภาษีศุลกากรลงเหลือศูนย์ หากสามารถทำข้อตกลงกับสหรัฐฯ ได้ ผมได้ขอบคุณเขาในนามของตัวแทนประเทศและผมหวังว่าพวกเราจะได้พบกันในอนาคตอันใกล้”

ข้อเสนอ "ภาษี 0%" นี้มีขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่สหรัฐฯ กำลังจะบังคับใช้กำแพงภาษีใหม่ถึง 46% กับสินค้านำเข้าทั้งหมดจากเวียดนามในสัปดาห์หน้า ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอัตราที่สูงที่สุดที่ทรัมป์กำหนดเป้าหมาย โดยจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเวียดนามที่ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ สูงถึง 142,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของเวียดนามถูกมองว่าเป็นการพยายามใช้การทูตนำหน้ามากกว่าการตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษี เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากกำแพงภาษีของทรัมป์ เห็นได้จากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม นายเหงียน ห่ง เซียน (Nguyen Hong Dien) เพิ่งเยือนวอชิงตันและปิดดีลมูลค่ากว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กับบริษัทสหรัฐฯ รวมถึงการที่เลขาธิการฯ โต เลิม รีบแสดงความยินดีกับทรัมป์หลังการเลือกตั้งและประกาศลดภาษีสินค้าสหรัฐฯ บางรายการไปก่อนหน้านี้เมื่อปลายเดือนมีนาคม ซึ่งถูกมองว่าเป็นการพยายามลดแรงกดดันจากทรัมป์