'ไล่ ชิงเต๋อ' ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวัน พาพรรคเป็นรัฐบาลต่อสมัยที่ 3

สำหรับผลการเลือกตั้งที่ออกมา นายไล่ ชิงเต๋อ หรือ วิลเลียม ไล่ จากพรรค DPP ได้รับคะแนนเสียงไป 40.14% ซึ่งทำให้เขาเตรียมขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวัน ต่อจากประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ผู้นำคนปัจจุบัน ที่กำลังจะหมดวาระไป


ส่วนคู่แข่งคนสำคัญ นายโหว โหย่วอี๋ อดีตผู้บัญชาการตำรวจ จากพรรคฝ่ายค้านใหญ่ อย่าง ก๊กมินตั๋ง (KMT) ได้รับคะแนนไป 33.44% โดยเขาชูนโยบายผูกมิตรกับจีนแผ่นดินใหญ่ ดำเนินนโยบายร่วมมือทางเศรษฐกิจกับรัฐบาลปักกิ่ง


นับตั้งแต่ปี 2543 การเลือกตั้งไต้หวันเป็นการแข่งขันกันระหว่าง 2 พรรคใหญ่ คือ DPP กับ ก๊กมินตั๋ง ทว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีผู้สมัครจากพรรคการเมืองที่ 3 เข้ามา คือ นายเคอเหวินเจ๋อ จากพรรคประชาชนไต้หวัน (TPP) ซึ่งได้รับคะแนนเสียงไปมากถึง 26.43% จากจุดยืนที่ไม่ต่อต้านจีนจนเกินไป เปิดรับความร่วมมือในส่วนที่เห็นร่วม แต่ปฏิเสธนโยบาย จีนเดียว อย่างแข็งขัน


ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางกานในเดือนพฤษภาคม ให้คำมั่นว่าจะสานต่อนโยบายที่เกี่ยวข้องกับจีน ของประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ผู้นำคนปัจจุบันต่อไป และจะรักษาสถานะภาพระหว่างไต้หวันกับจีนแบบที่เป็นอยู่


นอกจากนี้ เขายังบอกว่า อยากให้ไต้หวันกับจีนแลกเปลี่ยนและพูดคุยกัน มากกว่าการขัดขวางและสร้างความขัดแย้ง และเขาจะธำรงไว้ซึ่ง สันติภาพกับเสถียรภาพบริเวณช่องแคบไต้หวัน พร้อมย้ำว่า ไต้หวันจะเดินไปตามแนวทางประชาธิปไตยเคียงข้างประเทศประชาธิปไตยอื่น ๆ ทั่วโลก


ทั้งนี้ พรรค DPP ก่อตั้งขึ้นมา เมื่อปี 1986 จนถึงปัจจุบัน คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีของไต้หวันได้ถึง 5 จาก 8 ครั้ง


อย่างไรก็ตาม ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ พรรค DPP สูญเสียที่นั่งข้างมากในสภาให้กับพรรคก๊กมินตั๋ง ที่ได้ไป 52 ที่นั่ง ขณะที่ DPP ได้ไป 51 ที่นั่ง ส่วน TPP ได้ไป 8 ที่นั่ง ซึ่งจะส่งผลให้การผ่านร่างกฏหมายของพรรค DPP ในอีก 4 ปีข้างหน้า เป็นไปอย่างยากลำบากมากยิ่งขึ้น


ชัยชนะของนายไล่ สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมากให้กับแดนมังกร เพราะรัฐบาลจีนเคยหมายหัวนายไล่ว่าเป็นบุคคลอันตรายที่พยายามแบ่งแยกดินแดนไต้หวันออกจากจีน


ทันทีที่ผลการเลือกตั้งไต้หวันออกมา รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ได้ออกแถลงการณ์ตอกย้ำ สถานะของไต้หวันว่าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน พร้อมกับเรียกร้องการรวมชาติกันอย่างสันติ


ด้านสหรัฐอเมริกา พันธมิตรที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวันก็รีบออกมาแสดงความยินดีกับนายไล่ โดยนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่า ไต้หวันมีระบอบประชาธิปไตยและการเลือกตั้งที่แข็งแกร่ง และรัฐบาลสหรัฐฯ มุ่งมั่นที่จะรักษาสันติภาพกับเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน


ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก็พูดถึงผลการเลือกตั้งที่ออกมาว่า สหรัฐฯ ไม่ได้สนับสนุนการประกาศเอกราชของไต้หวัน แต่ก็ให้คำมันสัญญาว่าจะร่วมมือกับประเทศประชาธิปไตยอื่น ๆ ปกป้องไต้หวันจากจีนแผ่นดินใหญ่


ส่วนประชาชนผู้สนับสนันพรรค DPP ก็พากันออกมาฉลองหน้าสำนักงานใหญ่ของพรรคในกรุงไทเป โดยผู้สนับสนุนคนหนึ่งบอกว่า เขาเชื่อว่าไต้หวันไม่ต้องการเปลี่ยนเส้นทาง หรือ ขยับความสัมพันธ์เข้าไปใกล้กับจีน พวกเขาอยากมีอิสรภาพอย่างสง่างาม แม้จะมีขนาดเล็ก