ฮามาสปล่อยตัวประกันชุดแรก 24 คน กต.เผยรายชื่อคนไทย ยันถูกปล่อยตัว 10 คน

ข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวระหว่างอิสราเอล-ฮามาส เพื่อแลกกับการปล่อยตัวประกันและนักโทษปาเลสไตน์ในวันแรกเป็นไปด้วยดี ฮามาสยอมปล่อยตัวประกันออกมาทั้งหมด 24 คน กต.ยืนยันยอดตัวประกันคนไทยถูกปล่อยตัว 10 ราย ทยอยแจ้งญาติแล้ว

กระทรวงการต่างประเทศ ขอแจ้งเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปล่อยตัวประกันชาวไทยชุดแรกว่า วานนี้ (24 พ.ย. 66) อุปทูตและเจ้าหน้าที่ สอท. ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้เดินทางไปเยี่ยมกลุ่มคนไทยที่ได้รับการปล่อยตัวที่ รพ. Shamir Medical Center และยืนยันว่า มีกลุ่มคนไทยที่ได้รับการปล่อยตัวทั้งสิ้นจำนวน 10 ราย ( ไม่ใช่ 12  รายตามที่เป็นข่าวแต่แรก) โดยมีรายชื่อ ดังนี้

1) นางสาวณัฐฐาวรี มูลกัน

2) นายสันติ บุญพร้อม

3) นายบุญถม พันธ์ฆ้อง

4) นายมงคล ผจวบบุญ

5) นายวิทูรย์ ภูมี

6) นายวิชัย กาละปัตย์

7) นายบัญชา กองมณี

8) นายบุดดี แสงบุญ

9) นายอุทัย ทุ่นศรี

10) นายอุทัย แสงนวล

โดยระหว่างการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ สอท. ได้ให้ความช่วยเหลือด้านการแปลภาษา การดูแลขั้นพื้นฐาน และทยอยแจ้งญาติที่ประเทศไทยแล้ว ในเบื้องต้นจะอยู่โรงพยาบาลเป็นเวลา 48 ชม. ซึ่งแพทย์อิสราเอลจะดูแลอย่างเต็มที่

โดยจะจัดคณะทางการแพทย์ 6 ชุด แต่ละชุด ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล นักสังคมสงเคราะห์ และ จนท. สอท. เพื่อดูแลผู้ได้รับการปล่อยตัวทั้ง 10 คน และโรงพยาบาลจะจัดนักจิตวิทยาที่พูดภาษาไทยเพื่อให้ได้พูดคุย

ทั้งนี้ ทุกคนจะได้รับสิทธิประโยชน์ในฐานะเหยื่อของการก่อการร้าย ตามกฎหมายอิสราเอล ทั้งนี้ รัฐบาลไทยจะดำเนินการในส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อรับพี่น้องคนไทยทั้ง 10 คน กลับสู่ประเทศไทยและครอบครัวต่อไป

เมื่อวานนี้ ขบวนรถของสภากาชาดได้แล่นเข้ามาในกาซ่า เพื่อรับตัวประกันชุดแรกที่ได้รับการปล่อยตัวเมื่อเวลา 16 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่น หรือ 21 นาฬิกาวานนี้ตามเวลาบ้านเรา

กองกำลังฮามาส ได้นำตัวประกันมาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่สภากาชาดทั้งหมด 24 คน เป็นผู้หญิงและเด็กชาวอิสราเอล 13 คน ส่วนใหญ่เป็นครอบครัวเดียวกัน ในระหว่างการส่งมอบจะเห็นว่า นักรบฮามาสจะช่วยประครองหญิงชราหลายคน บางคนก็ช่วยอุ้มขึ้นรถของสภากาชาด

นอกจากตัวประกันชาวอิสราเอล 13 คนแล้ว ยังมีตัวประกันต่างชาติที่ได้รับการปล่อยตัวอีก 11 คน เป็นคนไทย 10 คนและฟิลิปปินส์ 1 คน ซึ่งตัวประกันต่างชาตินี้ในตอนแรกไม่มีการเปิดเผยว่า ได้รับการปล่อยตัว

ไทมส์ ออฟ อิสราเอล (Times of Israel) สื่ออิสราเอลรายงานว่า ไทยเจรจาปล่อยตัวประกันผ่านอิหร่าน ซึ่งคนไทยเป็นตัวประกันต่างชาติชุดใหญ่ที่ได้รับการปล่อยตัวในครั้งนี้

หลังจากส่งมอบตัวประกัน 24 คน สภากาชาดนำตัวประกันทั้งหมดออกจากกาซ่า ท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดี ขบวนรถตัวประกันแล่นไปยังจุดผ่านแดนราฟาห์ของอียิปต์ จากนั้นได้มีการตรวจร่างกายที่จุดผ่านแดนราฟาห์ก่อนในเบื้องต้น ก่อนจะนำตัวประกันทั้งหมดขึ้นรถบัสและรถพยาบาลไปยังอิสราเอล

หลังจากถึงอิสราเอล ตัวประกันได้ถูกนำตัวไปยังศูนย์แพทย์ชไนเดอร์ ทางตอนกลางของประเทศ เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด หน้าศูนย์แพทย์มีชาวอิสราเอลจำนวนหนึ่งมารวมตัวกัน ต้อนรับและแสดงความยินดีที่ตัวประกันได้รับอิสรภาพ ขณะที่ครอบครัวของตัวประกันก็มารอพบพวกเขาที่ศูนย์แพทย์แห่งนี้ด้วย

หนึ่งในครอบครัวตัวประกันที่รอคอยญาติๆ ของพวกเขาบางส่วนที่เป็นชุดแรกที่ได้รับการปล่อยตัว โรนี่ ฮาวีฟ (Roni Haviv) หญิงชาวอิสราเอลวัย 27 ปี บอกว่า ญาติของเธอที่ได้รับการปล่อยตัวครั้งนี้มี 3 คน คือหนูน้อยโอฮาร์ด(Ohad)วัย 9 ปี รวมถึง เคเรน มุนเดอร์ (Keren Munder) ผู้เป็นแม่วัย 54 ปี และ รูธีย์ (Ruthy Munder) ย่าของหนูน้อยโอฮาร์ด วัย 78 ปี โรนี่บอกว่า เธอเตรียมรูบิค ให้กับหนูน้อยโอฮาร์ด ซึ่งเป็นสิ่งที่ญาติของเธอชอบเล่นมาก

แต่ตอนนี้ที่เธอเป็นห่วงคือ อัฟราฮัม มุนเดอร์ (Avraham Munder) ปู่ของโอฮาร์ดวัย 78 ปี ที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ซึ่งอัฟราฮัม สุขภาพไม่ดี ต้องใช้ไม้เท้าเดิน และยังมีอาการ PTSD คือ อาการซึมเศร้า และเครียดหากมีเรื่องสะเทือนใจ ทั้งนี้อัฟราฮัม ถูกฮามาสแยกจับไว้อีกที่หนึ่ง ตอนนี้ไม่รู้ว่า อัฟราฮัมจะเป็นอย่างไร

ขณะที่อีกหนึ่งครอบครัวตัวประกัน ซึ่งลูกและภรรยาของเขาได้รับการปล่อยตัวชุดแรก ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า เขาจะยังไม่เฉลิมฉลองจนกว่า ตัวประกันทั้งหมดจะได้รับอิสรภาพ ชายคนนี้มีชื่อว่า โยนี คัทซ์ อาเชอร์ (Yoni Katz Asher) เขาบอกว่า แม้เขาจะดีใจและมีความสุขมากที่โดรอน (Doron) ภรรยาของเขาวัย 34 ปี รวมทั้งลูกสาว 2 คน วัย 4 และ 2 ขวบคือ ราซ (Raz) และ อาวีฟ (Aviv) ได้รับอิสรภาพ แต่พวกเขาจะไม่เฉลิมฉลองกัน จนกว่าตัวประกันคนสุดท้ายจะได้กลับบ้าน

หนึ่งในข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวอิสราเอล-ฮามาส คือ อิสราเอลจะต้องปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์ในเรือนจำออกมาด้วย 150 คน โดยนักโทษปาเลสไตน์ที่ได้รับการปล่อยตัวชุดแรก เมื่อวานนี้มี 39 คน เป็นผู้หญิงและเด็ก ฟาติมา อามาร์เนห์ (Fatima Amarneh) เป็นหนึ่งในนักโทษที่ได้รับอิสรภาพ เธอเดินทางกลับมาหาแม่และครอบครัวของเธอที่เมืองยาบัด (Yabad) ในเขตเวสต์ แบงก์ ทันทีที่ได้พบแม่ของเธอได้เข้าสวมกอดลูกสาวและร้องไห้

และการอนุญาตให้รถที่นำสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปในกาซ่าได้ เมื่อวานนี้มีรถบรรทุก ได้เข้าไปในกาซ่า ทางจุดผ่านแดนราฟาห์ 137 คัน นับเป็นจำนวนรถบรรทุกที่เข้าไปในกาซ่ามากที่สุดใน 1 วัน นับตั่เงแต่เกิดสงครามอิสราเอล ฮามาส เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม คาดว่า ตลอดระยะเวลา 4 วันของการหยุดยิงชั่วคราวจะมีรถบรรเทาทุกข์เข้าไปในกาซ่าหลายร้อยคันเลยทีเดียว