ต่างประเทศ
ทูตปาเลสไตน์รับปาก ช่วยแรงงานไทยสุดความสามารถ - ผู้สื่อข่าวเสียชีวิตแล้ว 11 คนจากเหตุสู้รบ
14 ต.ค. 2566
167 views
เมื่อเวลา 16.00 น. วานนี้ (13 ต.ค.) นายวาลิด อาบู อาลี เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำประเทศไทย มาเลเซีย มัลดีฟส์ และบรูไน ได้แถลงข่าวทางไกลต่อสื่อมวลชน ณ มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร ถึงความคืบหน้าในเรื่องการสู้รบระหว่างประเทศอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่ฉนวนกาซา รวมถึงการช่วยเหลือตัวประกันชาวไทย
เอกอัครราชทูตวาลิด กล่าวว่า ตนทราบว่ามีแรงงานไทยหลายคนถูกจับเป็นตัวประกัน แต่ตนขอให้ความมั่นใจว่า หากชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาทราบว่าตัวประกันดังกล่าวเป็นแรงงานชาวไทย หรือชาวต่างชาติ พวกเขาจะไม่ถูกทำร้ายอย่างแน่นอน เพราะกลุ่มฮามาสกำลังมีความขัดแย้งกับอิสราเอล ไม่ใช่กับชาติอื่นๆ แต่อย่างใด ตนขอให้คำมั่นกับรัฐบาลไทยว่าตนจะพยายามอย่างถึงที่สุดในการที่จะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องแรงงานไทย ผ่านการประสานงานกับสำนักงานต่างประเทศแห่งปาเลสไตน์
แต่ในขณะเดียวกัน ก็อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าสถานการณ์ในฉนวนกาซาตอนนี้อยู่ในขั้นวิกฤตและไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้ เพราะการสู้รบยังคงดำเนินอยู่ แต่ทันทีที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเพื่อเปิดทางให้เราติดต่อกับภายนอกได้ เราจะพยายามช่วยเหลือแรงงานไทยอย่างถึงที่สุด แต่ก็เป็นหน้าที่ของประชาคมโลกที่จะช่วยทำให้การเจรจาหยุดยิงเกิดขึ้นได้ และเพื่อให้หน่วยงานนานาชาติเข้าไปเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อขอให้มีการปล่อยตัวประกัน
ส่วนในคำถามที่ว่า ตอนนี้มีความหวังในการปล่อยตัวประกันแค่ไหน นายวาลิดยังกล่าวอีกว่า ตนไม่ทราบเช่นกัน เพราะไม่มีใครที่จะสามารถบอกในเรื่องข้อมูลในเรื่องนี้ได้ เพราะเราไม่สามารถติดต่อไปยังฉนวนกาซาได้ ตนไม่ทราบว่ามีคนชาติใดถูกจับกุมตัวไปบ้าง อยู่ที่ใด ถูกจับเป็นจำนวนเท่าใด แต่เราจะให้ข้อมูลอย่างเร็วที่สุดทันทีที่เรามี
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเจรจาในเรื่องหยุดยิงมีความคืบหน้าไปแค่ไหนแล้ว นายวาลิดกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณของการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ทางปาเลสไตน์ได้ขอให้ประชาคมโลกเข้ามาเป็นตัวกลางเพื่อนำไปสู่การเจรจาหยุดยิง แต่ทางฝั่งอิสราเอลก็ยังคงทำการโจมตีอย่างต่อเนื่อง เมื่อการหยุดยิงเกิดขึ้นก็จะมีกระบวนการอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมา รวมถึงการช่วยเหลือตัวประกันอีกด้วย
นอกจากนั้นแล้ว นายวาลิดได้เรียกร้องให้มีการเข้าสู่กระบวนการพูดคุยเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง เพราะการต่อสู้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อทหารเพียงอย่างเดียวแต่ยังกระทบไปยังพลเรือนของทั้งสองฝ่าย
-------------------------------------------------
ขณะที่วานนี้ คณะกรรมาธิการความปลอดภัยสื่อ (CPJ) รายงานสื่อมวลชนเสียชีวิต 11 คน ระหว่างปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา และสถานการณ์ความไม่ปกติบริเวณพรมแดนทางเหนือติดกับเลบานอน
เมื่อวานนี้ นายอิสซาม อับดัลละห์ (Issam Abdallah) ช่างภาพของสำนักข่าวรอยเตอร์เสียชีวิตจากการถล่มของอิสราเอลบริเวณพรมแดนของเลบานอน นอกจากนี้ ยังมีสื่อมวลชนจากสำนักข่าวอื่น ๆ ได้รับบาดเจ็บด้วย 6 คน เป็นนักข่าวจากรอยเตอร์ 2 คน, อัลจาซีรา 2 คน, และเอเอฟพี 2 คน
โดยอัลจาซีราได้ออกมาประณามอิสราเอลที่โจมตีสื่อมวลชน พร้อมระบุว่า ทหารอิสราเอลได้ยิงจรวดเข้าใส่ทีมข่าวที่กำลังรายงานข่าวทางใต้ของเลบานอน
ด้านบีบีซีเผยว่า ทีมข่าวของตนถูกเอาปืนจ่อหัว ขณะรายงานสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ทีมข่าวถูกตำรวจอิสราเอลจู่โจมที่นครเทลอาวีฟ และถูกเอาปืนจ่อหัว เมื่อคืนพฤหัสบดี ขณะกำลังเดินทางกลับโรงแรม แม้รถยนต์จะติดเครื่องหมายแสดงตัวตนว่าเป็นสื่ออย่างชัดเจน พวกเขาถูกตำรวจอิสราเอลลากลงจากรถ และพยายามค้นตัว
CPJ ออกแถลงการณ์ย้ำว่า ผู้สื่อข่าว คือ พลเรือนที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลาวิกฤต รายงานสถานการณ์ให้โลกได้รับรู้ และจะต้องไม่ตกเป็นเป้าการโจมตีจากคู่ขัดแย้ง พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องออกมาตรการที่เป็นหลักประกันด้านความปลอดภัยสำหรับสื่อมวลเพื่อป้องกันการสูญเสีย
https://youtu.be/lhABypcQBi4
แท็กที่เกี่ยวข้อง อิสราเอล ,ปาเลสไตน์ ,ฮามาส