สิงคโปร์แขวนคอนักโทษหญิง ครั้งแรกในรอบ 20 ปี ค้าเฮโรอีน 31 กรัม เมินเสียงค้านนักสิทธิมนุษยชน

เมื่อวันศุกร์ที่ 29 ก.ค. 2023 สิงคโปร์ได้แขวนคอผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ถูกตัดสินว่าพยายามค้าเฮโรอีน 1 ออนซ์ นับเป็นการประหารชีวิตนักโทษหญิงครั้งแรก ในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ

ซึ่งการประหารครั้งนี้ กลุ่มสิทธิมนุษยชนได้ประณามว่าเป็น ‘เหตุการณ์สำคัญที่น่ากลัว’ และเป็นกฎหมายการต่อต้านยาเสพติดที่รุนแรงฉาวโฉ่

สำนักงานปราบปรามยาเสพติดกลาง (CNB) ระบุในแถลงการณ์ที่ออกหลังการแขวนคอ ว่า ซารีเดวี (Saridewi Djamani) ชาวสิงคโปร์ วัย 45 ปี ถูกประหารชีวิตในเรือนจำชางงี ซึ่งเธอถูกตัดสินให้รับโทษประหารชีวิตในปี 2018 หลังจากถูกตัดสินว่าครอบครองเฮโรอีน 31 กรัม

CNB ระบุว่า เธอปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างครบถ้วน และมีที่ปรึกษากฎหมายคอยเป็นตัวแทนตลอดกระบวนการ เสริมว่า กฎหมายของสิงคโปร์ อนุญาตให้ประหารชีวิตนักโทษที่ค้า หรือครอบครองเฮโรอีน ที่มีน้ำหนักเกิน 15 กรัม

ซารีเดวี ถือว่าผู้หญิงคนแรกที่ถูกแขวนคอในสิงคโปร์ นับตั้งแต่ช่างทำผม ชื่อ เหวิ่น (Yen May Woen) วัย 36 ปี ในปี 2004 ซึ่งถูกตัดสินว่า มีความผิดในคดีค้ายาเสพติด เช่นกัน

ทั้งนี้ สิงคโปร์ยังคงรักษากฎหมายยาเสพติดที่เข้มงวดที่สุดในโลก และรัฐบาลยังคงยืนกรานว่า การลงโทษประหารชีวิตนั้นเป็นกระบวนการยับยั้งผู้ค้ายาเสพติด และรักษาความปลอดภัยของประชาชน

ภายใต้กฎหมายนี้ ใครก็ตามที่ถูกจับได้ว่าค้ามนุษย์ นำเข้าหรือส่งออกยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย เช่น เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) เฮโรอีน โคเคน กัญชา จะได้รับโทษประหารชีวิต

เท่ากับว่า ณ ขณะนี้ สิงคโปร์ได้แขวนคอคนไปแล้ว 15 คน ซึ่งรวมถึงชาวต่างชาติและชายพิการทางสติปัญญา 1 คน นับตั้งแต่กลับมาประหารชีวิตนักโทษคดียาเสพติดเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งนักเคลื่อนไหวกล่าวว่า เป็นการเร่งรัดอย่างมาก หลังจากยุติการเว้นไป 2 ปี เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด

CNB กล่าวว่า “การลงโทษประหารชีวิตจะใช้เฉพาะกับอาชญากรรมที่ร้ายแรงที่สุดเท่านั้น เช่น การลักลอบค้ายาเสพติดจำนวนมาก ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรง ไม่ใช่แค่กับผู้เสพยาแต่ละคนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงครอบครัวของพวกเขาด้วย”

การแขวนคอ ซารีเดวี ได้สร้างความไม่พอใจครั้งใหม่ และครั้งใหญ่จากกลุ่มสิทธิมนุษยชน