ต่างประเทศ

ในหลวง-พระราชินี ทรงร่วมงานเลี้ยงรับรองพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3

โดย petchpawee_k

6 พ.ค. 2566

117 views

ในหลวง-พระราชินี ทรงร่วมงานเลี้ยงรับรองพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ณ ในหลวง-พระราชินี ทรงร่วมงานเลี้ยงรับรองพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ณ พระราชวังบักกิงแฮม  ด้านชาวอังกฤษนับล้าน จับจองพื้นที่รอชมพระราชพิธีฯ 


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงร่วมงานพระราชทานเลี้ยงรับรองพระประมุข ประมุข และผู้แทนของประเทศต่าง ๆ ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ ณ พระราชวังบักกิงแฮม กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร



เมื่อวันที่วันที่ 5 พ.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากโรงแรมเดอะแลนด์มาร์ค ลอนดอน ซึ่งเป็นที่ประทับแรม ไปทรงร่วมงานพระราชทานเลี้ยงรับรองพระประมุข ประมุข และผู้แทนของประเทศต่าง ๆ ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ ณ พระราชวังบักกิงแฮม


โอกาสนี้ทรงมีพระพระราชปฏิสันถาร กับสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏาน และเจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์ พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3


ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะทรงร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลาณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร


จากนั้น ในวันที่ 6 พฤษภาคม พุทธศักราช 2566 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะทรงร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลา ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

-------------------------------------------

ชาวอังกฤษนับล้าน จับจองพื้นที่รอชมพิธีบรมราชาภิเษกพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ที่จะจัดขึ้นวันนี้

ในวันนี้ (6 พ.ค.) ที่สหราชอาณาจักรจะมีพระราชพิธีสำคัญครั้งประวัติศาสตร์ ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 70 ปี เป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งจะมีขึ้นที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์


ชาวอังกฤษนับล้านคนได้ไปรอจับจองพื้นที่เพื่อเฝ้าชมพระราชพิธีครั้งประวัติศาสตร์ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพื่อรอชมขบวนเสด็จตามเส้นทางที่กำหนดไว้ พระราชพิธีนี้มีขึ้นภายใต้แผนการที่มีชื่อเป็นรหัสว่า "ปฏิบัติการลูกโลกทองคำ" (Operation Golden Orb)


โดยวันแห่งประวัติศาสตร์ในวันนี้ เราจะได้เห็นการประกอบพิธีตามขนบธรรมเนียมอันเก่าแก่นับย้อนหลังไปตั้งแต่ปีค.ศ. 1066 หรือ เกือบ 1 พันปี ซึ่งพระราชพิธีจะจัดขึ้นที่มหาวิหารเวสต์ มินสเตอร์ใจกลางกรุงลอนดอน โดยมหาวิหารจะเริ่มเปิดให้บรรดาแขกเหรื่อทั้งจากในและต่างประเทศ เข้าไปร่วมพระราชพิธีตั้งแต่ 13.30 น. ตามเวลาบ้านเรา

การเฉลิมฉลองสำหรับพระราชพิธีอย่างเป็นทางการเริ่มต้นด้วยการเคลื่อนขบวนเสด็จจากพระราชวังบักกิงแฮมไปยังมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ โดยจะเริ่มขึ้นเวลา 10.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 16.20 น.ตามเวลาบ้านเรา ซึ่งเวลาของอังกฤษช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตามจะมีการเปิดพื้นที่นที่ให้ประชาชนได้เข้าชมขบวนเสด็จทั้งสองข้างทางริมถนนเดอะมอลล์และถนนไวต์ฮอลล์ ตั้งแต่เช้าตรู่ ใครที่มาทีหลังสามารถชมได้ผ่านการถ่ายทอดสดจากจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ ทั้งในสวนสาธารณะไฮด์พาร์ก, กรีนพาร์ก และสวนหลวงเซนต์เจมส์

นอกจากนี้ยังมีการจัดเตรียมอัฒจันทร์สำหรับแขกพิเศษ 200 คนที่ด้านหน้าพระราชวังบักกิงแฮม แขกที่ว่านี้คือเหล่าทหารผ่านศึก เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และนักสังคมสงเคราะห์ที่ได้รับเลือกจากสำนักพระราชวัง

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีนาถคามิลลา จะเสด็จไปยังมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ด้วย "ราชรถพัชราภิเษก" (Diamond Jubilee State Coach) ซึ่งทำขึ้นใหม่เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบ็ธที่ 2 ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี และถูกใช้งานครั้งแรกเมื่อปี 2014 ซึ่งตรงนี้เองถือเป็นการเปลี่ยนกฎธรรมเนียมดั้งเดิม ไม่ได้ใช้ราชรถทองใหญ่ หรือ (Gold Coach State) ตามธรรมเนียมที่เคยเป็นมา สำหรับราชรถพัชราภิเษก จะนั่งสะดวกสบายกว่า และมีเครื่องปรับอากาศ

ในขบวนเสด็จจะมีทหารไม่ถึง 200 นายจากทุกเหล่าทัพถวายการอารักขา ส่วนใหญ่เป็นกองทหารม้ารักษาพระองค์ โดยเส้นทางเคลื่อนขบวนเสด็จจะเริ่มจากพระราชวังบักกิงแฮม มุ่งสู่ถนนเดอะมอลล์ ไปยังจัตุรัสทราฟัลการ์ ก่อนจะเลี้ยวเข้าถนนไวต์ฮอลล์ และถนนรัฐสภาตามลำดับ จากนั้นจะเข้าสู่จัตุรัสรัฐสภาและอาคารบอร์ด แซงชวลรี (Board Sanctuary) เพื่อไปยังประตูใหญ่ทิศตะวันตกของมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์


ขบวนเสด็จจะไปถึงมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ที่ประกอบพระราชพิธีก่อนเวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 17.00 น. ตามเวลาบ้านเรา ซึ่งพระราชพิธีที่เวสต์มินสเตอร์ จะใช้เวลาประมาณ 90 นาที และตลอด 2 ข้างทางจะมีเจ้าหน้าที่ราว 1 พันนายรักษาความปลอดภัย


สำหรับขั้นตอนการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยหลักแล้วจะไม่เปลี่ยนแปลงจากที่เคยเป็นมาตลอด 1 พันปี จะมีการเปลี่ยนแปลงบางส่วนเท่านั้น เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยและสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งจะไม่ยิ่งใหญ่เท่าครั้งของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อปี 1953 (70 ปีก่อน) ขั้นตอนการประกอบพิธีก็จะสั้นลงมาก

โดยทั่วไปแล้วพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของอังกฤษจะมี 6 ขั้นตอน คือ

1.ถวายความจงรักภักดี

2.ขั้นตอนกล่าวคำปฏิญญา

3.การเจิมน้ำมันศักดิ์สิทธิ์

4.ขั้นตอนถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์และสวมพระมหามงกุฎ

5.ขึ้นประทับบนพระราชบัลลังก์

6.พระราชพิธีสวมพระมหามงกุฎสมเด็จพระราชินี


หลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะเสด็จไปยังโบสถ์น้อยเซนต์เอ็ดเวิร์ด เพื่อผลัดเปลี่ยนพระมหามงกุฎ จากพระมหามงกุฎเซนต์เอ็ดเวิร์ด มาเป็นพระมหามงกุฎอิมพีเรียลสเตท ก่อนเสด็จออกจากมหาวิหารเพื่อทรงร่วมขบวนที่เตรียมเคลื่อนกลับไปยังพระราชวังบักกิ่งแฮม ตามเส้นทางเดิม ในเวลาประมาณ 13.00 น. หรือ 19.00 น.บ้านเรา

แต่คราวนี้จะเสด็จกลับโดยราชรถทองใหญ่ (Gold State Coach) อายุเก่าแก่ 260 ปี ที่ใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกมาตั้งแต่เริ่มต้นรัชสมัยของพรเจ้าวิลเลียมที่ 4 เมื่อปี 1831

เส้นทางของขบวนเสด็จนี้คิดเป็นระยะทางทั้งสิ้น 2.29 กิโลเมตร จะใช้เวลาเดินทาง 45 นาที หรือเสร็จสิ้นในเวลา 13.45 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 19.45 น. ตามบ้านเรา ซึ่งถือว่า สั้นกว่าเส้นทางเมื่อครั้งที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงประกอบพิธีพระบรมราชาภิเษกในปี 1953 โดยในครั้งนั้นเส้นทางยาวกว่าคือ 6.5 กิโลเมตร

ขบวนเสด็จถึงพระราชวังบักกิงแฮม สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะเสด็จออกสีหบัญชร เมื่อเวลา 14.15 นาที หรือ 20.15 น.ตามเวลาบ้านเรา ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมที่พระราชวงศ์อังกฤษทรงยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด ถือเป็นโอกาสที่จะได้ทรงพบปะทักทายเหล่าพสกนิกร ซึ่งมาเฝ้าเสด็จที่ถนนเดอะมอลล์ ด้านหน้าพระราชวังบักกิงแฮม


ในช่วงเวลานั้นฝูงเครื่องบินรบจากทุกเหล่าทัพจะบินผ่านเหนือพระราชวังบักกิงแฮม เพื่อเทิดพระเกียรติกษัตริย์พระองค์ใหม่เป็นเวลา 6 นาที รวมถึงการแสดงฝูงบินผาดแผลงแห่งกองทัพอากาศ สิ้นสุดการเฉลิมฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษก


ในส่วนของมาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งก่อนและหลังพระราชพิธี ทางการอังกฤษได้ระดมตำรวจ 29,000 นาย เพื่อให้ทุกคนมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากพระราชพิธีในวันนี้มีทั้งกษัตริย์, ผู้แทนพระองค์, ตัวแทนระดับสูงจากต่างประเทศ และแขกคนสำคัญเข้าร่วมมากกว่า 2 พันคน และยังมีความเคลื่อนไหวในส่วนของกลุ่มรีพับลิก (Repubic) ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านราชวงศ์และสนับสนุนให้สหราชอาณาจักรปกครองประเทศด้วยระบบสาธารณรัฐ จะจัดชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ก่อตั้งกลุ่มนี้มาเมื่อ 40 ปีก่อน

คุณอาจสนใจ