ต่างประเทศ

ตระการตา! รวมความประทับใจ ทั่วโลกจัดใหญ่ ฉลองปีใหม่ 2023 หลังผ่านพ้นวิกฤตโควิด

โดย thichaphat_d

1 ม.ค. 2566

133 views

ทั่วโลกเฉลิมฉลองและนับถอยหลังสู่ปี 2566 กันอย่างคึกคัก โดยมีผู้คนออกมารับชมการแสดงดอกไม้ไฟ และแสงสีเสียงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก

ที่เมืองโอ๊กแลนด์ (Auckland) ของนิวซีแลนด์ ซึ่งถือเป็นเมืองใหญ่แห่งแรกของโลกที่ได้นับถอยหลังเข้าสู่ปี พ.ศ. 2566 อย่างเป็นทางการ ตรงกับเวลาประมาณ 18 นาฬิกา ของวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ตามเวลาในประเทศไทย

โดยที่นิวซีแลนด์ มีการจุดพลุดอกไม้ไฟฉลองอย่างสวยงาม เหนือตึกสกายทาวเวอร์ ซึ่งมีความสูง 328 เมตร เป็นระยะเวลา 5 นาที พร้อมกับใช้ดอกไม้ไฟ 500 กิโลกรัม

ส่วนที่นครซิดนีย์ ของออสเตรเลีย ก็มีการจุดพลุฉลองอย่างยิ่งใหญ่บนสะพานฮาร์เบอร์ บริดจ์ (Harbour Bridge) โดยใช้ดอกไม้ไฟกว่า 7,000 นัด และถูกจุดขึ้นจาก 184 จุดบนสะพาน

ขณะเดียวกัน ที่ซิดนีย์ โอเปร่าเฮาส์ และสถานที่ต่าง ๆ ก็มีการจุดดอกไม้ไฟพร้อมกันอีก 2,000 นัด โดยการแสดงดอกไม้ไฟที่ซิดนีย์มีระยะเวลาทั้งหมด 12 นาที

ที่ฮ่องกง มีการแสดงแสงสีเสียงและดอกไม้ไฟเหนืออ่าววิกตอเรีย ซึ่งเป็นการกลับมาเฉลิมฉลองปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง เพียง 3 วัน หลังจากที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี

โดยการเคานต์ดาวน์ที่ฮ่องกง มีระยะเวลาทั้งหมด 25 นาที จากนั้น นาฬิกาของศูนย์การประชุมและการแสดงสินค้าฮ่องกง เริ่มนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ ในช่วง 30 วินาทีสุดท้ายของปี 2565

ขณะเดียวกัน ที่กรุงไทเป ของไต้หวัน มีการแสดงดอกไม้ไฟสุดยิ่งใหญ่ตระการตา จากอาคารไทเป 101 แลนด์มาร์กสำคัญของเมือง พร้อมทั้งมีการแสดงไฟแสงสี บนตัวตึกทั้ง 4 ด้านอย่างสวยงาม

โดยการนับถอยหลังเข้าสู่ปี 2566 ที่กรุงไทเปล่าสุดนี้ เป็นการเฉลิมฉลองปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่ครั้งแรกในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด

ส่วนที่เมืองอู่ฮั่น ของจีน ประชาชนหลายหมื่นคนออกมาเฉลิมฉลองปีใหม่กันในย่านใจกลางเมือง ท่ามกลางการการรักษาความปลอดภัยและการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดอย่างเข้มงวด โดยผู้คนพากันปล่อยลูกโป่งขึ้นฟ้า ในตอนเวลาเที่ยงคืน ของวันที่ 1 มกราคม

ส่วนที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีการจัดพิธีลั่นระฆัง ที่วัดอาซากุซะ หรือ วัดเซนโซจิ เพื่อต้อนรับปีใหม่ ตามประเพณีดั้งเดิมของชาวพุทธ โดยเชื่อว่ามนุษย์เกิดมาพร้อมกับความปรารถนาทางโลก 108 อย่าง ดังนั้น เมื่อลั่นระฆังครบ 108 ครั้ง จะสามารถขจัดปัดเป่าออกไปได้

เช่นเดียวกันกับที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ มีการลั่นระฆังขนาดใหญ่ที่โพชินกัก (Bosingak) หรือหอระฆังโพชินกัก โดยผู้คนพากันมารวมตัวชมประเพณีลั่นระฆัง ที่ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด นายน์ทีน โดยมีการลั่นระฆังทั้งหมด 33 ครั้ง ตามประเพณีดั้งเดิมที่มีมาตั้งแต่สมัยโชซอน

ส่วนที่ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีผู้คนจำนวนมาพากันออกมารับชมการแสดงดอกไม้ไฟ และไฟแสงสีสุดยิ่งใหญ่ที่จุดจากตึกเบิร์จคาลิฟา ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก

ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ประชาชนนับล้านคนพากันมารวมตัวออกมารวมตัวเฉลิมฉลองและนับถอยหลังสู่ ปี พ.ศ. 2566 ที่ถนนฌ็องเซลิ พร้อมกับรับชมการแสดงดอกไม้ไฟสุดยิ่งใหญ่ตระการตา ที่จุดขึ้นบริเวณประตูชัยฝรั่งเศส เป็นรระยะเวลานานถึง 8 นาที

ส่วนที่กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี มีการจุดดอกไม้ไฟเหนือท้องฟ้ายามค่ำคืน ตามจุดต่าง ๆ ของเมือง โดยมีผู้คนจำนวนมากออกมาร่วมกันเฉลิมฉลอง ซึ่งการฉลองปีใหม่ในกรุงเบอร์ลินสิ้นสุดลง หลังจากการแสดงดอกไม้ไฟอย่างเป็นทางการที่ประตูบรันเดินบวร์ก (Brandenburg Gate) สิ้นสุดลง

ที่กรุงลอนดอน ของอังกฤษ ทันทีหอนาฬิกาบิ๊กเบน บอกเวลาว่าถึงเที่ยงคืนของวันที่ 1 มกราคมแล้ว ก็มีการแสดงดอกไม้สุดยิ่งใหญ่ตระการตาที่ชิงชาสวรรค์ลอนดอนอาย ริมแม่น้ำเทมส์

ส่วนทางฝรั่งทวีปอเมริกา ก็ใกล้จะเข้าสู่วันปีใหม่แล้ว โดยการเฉลิมฉลองที่หลายคนจับตาดูมากที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้นการฉลองที่จัตุรัส ไทม์สแควร์ นครนิวยอร์ก ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่จะมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ และจะเข้าสู่ปีใหม่ในเวลาเที่ยงวัน ตามเวลาเวลาในไทย


https://youtu.be/7j3R7h6qjWU



คุณอาจสนใจ

Related News