ต่างประเทศ

ผู้นำยูเครน จวกนาโต้ ไม่ประกาศเขตห้ามบิน สื่อต่างประเทศหยุดปฏิบัติงานในรัสเซีย

โดย weerawit_c

5 มี.ค. 2565

24 views

ปฏิบัติการโจมตียูเครนของกองกำลังรัสเซียเมื่อวานนี้ทำให้ทั่วโลกหวาดหวั่นไม่น้อย หลังจากกองกำลังรัสเซียบุกยึดโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ได้ ขณะที่ผู้นำยูเครนออกมาเรียกร้องนาโต้อีกรอบให้กำหนดเขตห้ามบินในยูเครน

เมื่อวานนี้ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครนออกมาวิพากษ์วิจารณ์องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ อย่างรุนแรง ที่ปฏิเสธการกำหนดเขตห้ามบินในยูเครน โดยเซเลนสกี้ บอกว่า การไม่กำหนดเขตห้ามบิน เหมือนเป็นการเปิดไฟเขียวให้รัสเซียเดินหน้าทิ้งระเบิดโจมตีเมืองต่างๆ ในยูเครนอย่างต่อเนื่อง

เซเลนสกี้ใช้คำพูดที่รุนแรงว่า การประชุมสุดยอดนาโต้เมื่อวานนี้ เป็นการประชุมที่อ่อนแอ และสับสน เป็นการบ่งบอกที่ชัดเจนว่า ใช่ว่าทุกคนจะมองไปในทางเดียวกันว่า เสรีภาพของยุโรปเป็นสิ่งสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง

ขณะที่นายแอนโทนี่ บลิงเค่น รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯให้เหตุผลว่า การกำหนดเขตห้ามบินในยูเครน จะยิ่งทำให้สงครามลุกลามบานปลายและก่อให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้นในยุโรป

ส่วนสถานการณ์สู้รบในยูเครน เมื่อวานนี้รัสเซียยังคงระดมโจมตียูเครนทั้งทางเหนือ ตะวันออกและทางใต้ ซึ่งการโจมตีโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ "ซาปอริซเซีย" ในเมือง อีเนอโกดาร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน จนทำให้เกิดไฟลุกไหม้ สร้างความวิตกกังวลเป็นอย่างมากให้กับหลายฝ่ายว่า จะทำให้โรงไฟฟ้าระเบิด แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ และไม่พบสารกัมมันตรังสีรั่วไหล

ขณะที่เช้าตรู่วันนี้มีรายงานการโจมตีอย่างหนักที่เมือง เชอร์นิกอฟ ทางเหนือของยูเครน ส่วนกองกำลังขนาดใหญ่รัสเซียก็ยังคงตรึงกำลังรอรุกคืบเข้าสู่กรุงเคียฟ ตอนนี้อยู่ห่างกรุงเคียฟไปทางเหนือ 25 กิโลเมตร

เมื่อวานนี้สภาล่างรัสเซียผ่านกฎหมายบัญญัติโทษจำคุก 15 ปี ผู้ที่กระทำการเผยแพร่ข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับกองทัพ ในช่วงเวลาที่กำลังมีการสู้รบระหว่างยูเครนและรัสเซีย-โดยกฎหมายฉบับนี้ระบุให้ การเผยแพร่ข่าวปลอมและการออกมาเรียกร้องให้คว่ำบาตรต่อรัสเซีย เป็นความผิดทางอาญา และต้องถูกจับคุกสูงสุดนานถึง 15 ปี

เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลรัสเซียระบุว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามักมีการเผยแพร่ข่าวปลอมมากมาย จากศัตรูของรัสเซีย ทั้งสหรัฐอเมริกาและพันธมิตร เพื่อสร้างความบาดหมางและแบ่งแยกประชาชนชาวรัสเซีย

ทั้งนี้ การออกกฎหมายฉบับนี้จะทำให้รัฐบาลรัสเซียมีอำนาจเพิ่มมากขึ้นในการปราบปรามผู้ที่ออกมาต่อต้านและสร้างความเสื่อมเสียให้กับกองทัพ ทันทีที่กฏหมายดังกล่าวผ่านการรับรองจากสภา ทำให้ 3 สำนักข่าวต่างประเทศได้แก่บลูมเบิร์ก ซีเอ็นเอ็น และบีบีซี ออกแถลงการณ์ระงับการทำงานในรัสเซีย โดยซีเอ็นเอ็นระบุว่า จะหยุดออกอากาศในรัสเซีย และกำลังพิจารณาว่า จะดำเนินการต่อไปอย่างไร

ขณะที่ทิม เดวี ผู้อำนวยการทั่วไปของ BBC แถลงเมื่อวานนี้ว่า จะระงับการทำงานของนักข่าวและเจ้าหน้าที่สนับสนุนในรัสเซียทั้งหมดเป็นการชั่วคราว ภายหลังที่รัสเซียออกกฎหมายฉบับใหม่ที่อาจจำคุกผู้ที่พบว่า จงใจเผยแพร่ข่าวปลอม

ซึ่งทิม เดวี กล่าวว่า กฎหมายดังกล่าวดูเหมือนจะทำให้กระบวนการทำงานของสื่อสารมวลชนอิสระกลายเป็นอาชญากรรม และ BBC ไม่มีทางเลือก นอกจากการระงับการทำงานของนักข่าว BBC News ทั้งหมด และพนักงานสนับสนุนในรัสเซียเป็นการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ แต่ในส่วน BBC News ในภาษารัสเซียจะยังคงให้บริการจากนอกประเทศรัสเซีย

ส่วนบลูมเบิร์กระบุว่า การลงนามรับรองกฏหมายดังกล่าวของผู้นำรัสเซีย ทำให้การทำงานของผู้สื่อข่าวภายในรัสเซียเป็นไปอย่างยากลำบาก บลูมเบิร์กจำเป็นต้องระงับการทำงานในรัสเซียด้วยเช่นกัน

ขณะที่สื่อสังคมออนไลน์ อย่างเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และยูทูบ ก็ถูกแบนเช่นกัน ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตในรัสเซีย ไม่สามารถใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์ดังกล่าวได้ ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการสื่อสารของรัฐบาลรัสเซีย กล่าวว่า ทวิตเตอร์ไม่สามารถลบเนื้อหาที่ถูกห้ามโดยทางการรัสเซียได้

แม้การเจรจารอบสองจะประสบความคืบหน้า ทั้งฝ่ายรัสเซียและยูเครนยอมเปิดทาง สำหรับผู้อพยพและการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แต่ในส่วนการระดมโจมตีก็ยังคงดำเนินต่อไป สื่อตะวันตกรายงานว่า ผู้บัญชาการกองกำลังรัสเซีย 3 นายเสียชีวิต ในขณะที่นำกำลังทหารรัสเซียปฏิบัติการในจุดต่างๆ

นอกจากที่เมืองเชอร์นิกอฟ การสู้รบที่เมืองมาริอูโปล เมืองท่าทางใต้ของยูเครน รวมไปถึงที่เมืองคาร์คีฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ก็เป็นไปอย่างหนักหน่วงเช่นกัน

คุณอาจสนใจ

Related News