ต่างประเทศ

เนปาลเดือด! 'ม็อบเจน Z' บุกเผารัฐสภา นักการเมืองหนีตาย ภรรยาอดีตนายกฯ ถูกไฟคลอกเสียชีวิต

10 ก.ย. 2568

61 views

สถานการณ์เนปาลตอนนี้ยังต้องเฝ้าระวังระดับสูงสุด กองทัพประกาศเคอร์ฟิวอย่างไม่มีกำหนดทั้งในเมืองหลวงและเมืองใกล้เคียง หลังม็อบ Gen Z (เจน ซี) ต่อต้านการคอร์รัปชั่น บุกเผาอาคารรัฐสภา และจุดไฟเผาบ้านอดีตนายกรัฐมนตรี จนภรรยาอดีตนายกฯถูกไฟคลอกเสียชีวิตเมื่อวานนี้ มีผู้เสียชีวิตจากการประท้วงแล้ว 22 คน บาดเจ็บมากกว่า 500 คน



เหตุชุมนุมประท้วงต่อต้านการคอรัปชั่นของกลุ่มเจน Z ในเนปาลทวีความรุนแรงถึงขีดสุดเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ผู้ประท้วงพากันบุกเผาอาคารรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นอาคารศาลฎีกา อาคารรัฐสภา รวมถึงบ้านเรือนของนักการเมืองหลายคนทั้งในอดีตและปัจจุบันทั่วทั้งประเทศ และอาคารของหนังสือพิมพ์กาฐมาณฑุ เพรส



หนึ่งในนั้นมีบ้านของอดีตนายกรัฐมนตรีชาลา นาถ ข่านาล ทำให้ภรรยาของอดีตนายกฯชาลา นาถ ถูกไฟคลอกได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา



มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐอีกหลายคนพากันหนีตาย ขณะที่รัฐมนตรีคลังก็ถูกไล่ทุบตี หลายคนถูกจับแก้ผ้าแห่ไปตามท้องถนน ส่วนรัฐมนตรีบางคนต้องขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเพื่อหลบหนี


ขณะที่สนามบินในกรุงกาฏมันฑุ ผู้โดยสารต้องติดค้างในสนามบินไม่กล้าออกมาข้างนอก เพราะสถานการณ์ข้างนอกเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังบ้าคลั่ง ผู้ที่อยู่ในสนามบินได้บันทึกภาพควันไฟที่พวยพุ่งใกล้สนามบิน ผลกระทบจากการจลาจลได้ขยายวงกว้างสู่ภาคการบิน โดยท่าอากาศยานนานาชาติตริภูวัน ถูกสั่งปิดให้บริการชั่วคราว



ส่วนนี่เป็นภาพจากเพจอาร์มี่ มิลิแทรี่ ฟอร์ซ เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 777-2D7 ไฟลท์ TG 320 ของการบินไทย เที่ยวบินสุดท้าย ที่เดินทางออกจากสนามบินนานาชาติตริภูวัน



การชุมนุมประท้วงในเนปาลเริ่มขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากม็อบเจน Z ไม่พอใจที่รัฐบาลสั่งแบนสื่อสังคมออนไลน์เมื่อสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้ผู้ชุมนุมพากันออกมาประท้วงและพยายามบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา เผาอาคาร รวมถึงอาคารรัฐบาลอื่นๆ ตำรวจตัดสินใจใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางสลายการชุมนุม



แม้ต่อมารัฐบาลยอมยกเลิกคำสั่งแบนดังกล่าว ขณะที่นายกรัฐมนตรี เค.พี. ชาร์มา โอลิ แห่งเนปาลและเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย แต่ผู้ชุมนุมยังไม่พอใจ ยังคงฝ่าฝืนประกาศเคอร์ฟิว และรวมตัวกันตามจุดต่างๆ ทั่วเมืองหลวง บางกลุ่มได้บุกเข้าไปจุดไฟเผาทรัพย์สินและบ้านเรือนของนักการเมือง



การประท้วงของกลุ่ม Gen Z ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ไม่สามารถหยุดยั้งได้ เนื่องจากไม่มีผู้นำในการประท้วง ขณะที่ข้อเรียกร้องของคนกลุ่มนี้คือ ต้องการให้ยุบสภา



ก่อนหน้านี้มีการรณรงค์ในเนปาลภายใต้ชื่อ Nepo Kids เป็นการเปิดโปงไลฟ์สไตล์หรูหราของลูกหลานนักการเมืองและข้อกล่าวหาเรื่องการคอรัปชั่นของนักการเมือง จนรัฐบาลตัดสินใจบล็อก 26 แพลตฟอร์มออนไลน์ ให้เหตุผลว่า เพื่อรับมือกับข่าวปลอม คำพูดสร้างความเกลียดชัง และการฉ้อโกงออนไลน์ ทำให้คนรุ่นใหม่ออกมาประท้วงอย่างหนัก



ความไม่สงบครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษที่เกิดขึ้นในเนปาล ประเทศยากจน ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างอินเดียและจีน และต้องดิ้นรนกับความไม่มั่นคงทางการเมืองและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ นับตั้งแต่การประท้วงที่นำไปสู่การยกเลิกระบอบกษัตริย์ในปี 2551



ล่าสุดวันนี้ กองทัพเนปาลส่งทหารติดอาวุธออกมารักษาความสงบเรียบร้อยตามท้องถนนในกรุงกาฐมาณฑุ พร้อมสั่งให้ประชาชนอยู่ในเคหสถานเพื่อความปลอดภัย



การปรากฏตัวของทหารติดอาวุธบนท้องถนนในวันนี้ดูเหมือนจะทำให้สถานการณ์ความวุ่นวายในช่วง 2 – 3 วันที่ผ่านมา เริ่มกลับมาสู่สภาวะปกติอีกครั้ง ซึ่งทหารยังได้บังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิวในกรุงกาฐมาณฑุ พร้อมทั้งตรวจค้นยานพาหนะและผู้คนด้วย



อย่างไรก็ มีรายงานว่า มีคนพยายามสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายราว 25 คน ในเขตชานกรุงกาฐมาณฑุ ซึ่งถูกจับกุมแล้ว



นายราชา ราม บาสเน็ต (Raja Ram Basnet) โฆษกของกองทัพเนปาลกล่าวว่า กองทัพจะพยายามทำให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติก่อนเป็นอันดับแรก และจะปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างถึงที่สุด



สถานการณ์ประท้วงรุนแรงในเนปาลที่ลุกลามบานปลายจนมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 22 ราย ส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐฯแนะนำพลเรือนของตนในเนปาลอยู่แต่ในเคหะสถาน จนกว่าจะมั่นใจว่า สถานการณ์ปลอดภัยและให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปเนปาลในช่วงนี้



ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ยกระดับคำเตือนการเดินทาง แนะพลเมืองหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็นไปยังเนปาล โดยระบุว่า สถานการณ์ในเนปาลขณะนี้ยังคงมีความผันผวนและไม่แน่นอน จึงขอให้ชาวสิงคโปร์ที่วางแผนจะเดินทางทบทวนแผนใหม่



ส่วนผู้ที่พำนักอยู่ในเนปาลอยู่แล้ว ให้ใช้ความระมัดระวังสูงสุด หลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุม ติดตามข่าวสารจากทางการท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำหน่วยงานในท้องถิ่น เนื่องจากขณะนี้กรุงกาฐมาณฑุมีการประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิว



สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ต้องยกเลิกเที่ยวบิน 2 เที่ยว ที่เชื่อมต่อระหว่างสิงคโปร์และกาฐมาณฑุเมื่อวานนี้ พร้อมเสนอทางเลือกให้ผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบสามารถเปลี่ยนแปลงการเดินทาง หรือขอคืนเงินค่าตั๋วได้เต็มจำนวน



ส่วนบริษัทนำเที่ยวหลายแห่งในสิงคโปร์ได้เริ่มแจ้งลูกทัวร์ให้เลื่อนกำหนดการเดินทางไปยังเนปาลออกไปก่อน เพื่อความปลอดภัย



ขณะที่นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ และนายโวลเกอร์ เติร์ก เลขาธิการด้านสิทธิมนุษชน ประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเนปาล และเรียกร้องให้มีการสอบสวนเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นและขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทน อดกลั้นไม่ให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงมากไปกว่านี้



มีรายงานว่า ตอนนี้ไม่มีพรรคการเมืองใดมีเสียงข้างมาก มีแนวโน้มว่า สส.จะจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล และให้องค์การเจนซี เข้ามาหารือ และมีส่วนร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลด้วย



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/37mlb7ztxtM

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ