“มาลี” แถลงไทม์ไลน์ปะทะชายแดน อ้างไทยโจมดตีก่อน พบพลเรือนเจ็บ 3 ราย เรียกร้องนานาชาติประณาม

เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.ที่ผ่านมา พลโทหญิงมาลี โสเจียตา ได้แถลงข่าว ระบุไทม์ไลน์ กล่าวหาว่าฝ่ายไทยได้เปิดฉากโจมตีกัมพูชาก่อน


โดยพลโทหญิงมาลี กล่าวว่ากองทัพไทยได้เปิดฉากโจมตีกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เวลาประมาณ 05.04 น. การโจมตีเกิดขึ้นในพื้นที่อานเสะ, ปราสาทตาเมือนธม, พื้นที่ปราสาทพระวิหาร, พื้นที่ 5 มกรา, จอมกะเจก, มอมเบย, เขาพนม กมอจ, กูล 8, ปราสาทตาควาย, และปราสาทคะนา โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากฝ่ายไทยได้เปิดฉากยิงใส่กองกำลังกัมพูชาเมื่อเวลา 14:15 น. ของวันที่ 7 ธันวาคม พร้อมไล่ไทม์ไลน์


-เวลา 04:00 น รถบรรทุกหนักของทหารไทยจำนวน 2 คัน ได้ขนกำลังพลจากพนมรุ้งไปยังแนวหน้าของพื้นที่อานเสะ

-เวลา 05:04 น ทหารไทยยิงจากทางทิศตะวันตกของตลาดอานเสะเข้าใส่กองกำลังกัมพูชา โดยใช้ปืนเล็ก จำนวน 25 นัด

-เวลา 05:19 น. ทหารไทยได้ยิงจากทางทิศตะวันตกของตลาดอานเสะ เข้าใส่กองกำลังกัมพูชา โดยใช้อาวุธปืนเล็กยาว จำนวน 38 นัด

-เวลา 05:25 น. ทหารไทยได้ยิงจากทางทิศตะวันตกของตลาดอานเสะ เข้าใส่กองกำลังกัมพูชา โดยใช้อาวุธปืนเล็กยาวและปืนกล จำนวน 120 นัด

-เวลา 05:40 น. ทหารไทยได้ระงับการยิง แต่กองกำลังกัมพูชายังคงติดตามสถานการณ์ตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทยอย่างต่อเนื่อง และอยู่ในสภาวะเตรียมพร้อมขั้นสูงตลอดเวลา

-เวลา 06:13 น. ทหารไทยได้เริ่มเปิดฉากยิงอีกครั้ง โดยใช้ปืน MT60 จำนวน 3 นัด

-เวลา 06:22 น. ทหารไทยได้ยิงต่อเนื่องด้วย ปืนครก จำนวน 4 นัด และปืนกล เข้าใส่แนวเตรียมพร้อมของกองกำลังกัมพูชา ในพื้นที่อานเสะ

-เวลา 06:51 น. ทหารไทยเริ่มโจมตีเข้าสู่พื้นที่ปราสาทตาเมือน โดยใช้รถถัง

-เวลา 07:40 น. ทหารไทยยังคงยิงถล่มเป้าหมายหลายแห่ง โดยใช้ปืนใหญ่ 155 มม., รถถัง และปืนครกทุกชนิด ในพื้นที่อานเสะ

-เวลา 08:10 น. ทหารไทยได้ยิงควันพิษเข้าไปยังที่ตั้งในพื้นที่เขาพนมกมอจเป็นจำนวนมาก

-เวลา 08:14 น.: ทหารไทยได้ยิงควันพิษเพิ่มเติมในพื้นที่ปราสาทพระวิหาร

-เวลา 08:41 น. ทหารไทยยังคงระดมยิงปืนใหญ่ โดยยิงถล่มอย่างหนักที่พระตำหนัก (King’s Palace), บ้านทมอดอน และปราสาทตาเมือน ซึ่งขณะนั้น มีเครื่องบินทหารไทยบินวนอยู่ตามแนวชายแดน

-เวลา 09:05 น. ทหารไทยได้โจมตีเข้าใส่กองกำลังกัมพูชา โดยใช้เครื่องบินขับไล่ชนิด F-16 ที่ตำบลสระแอม อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหาร

-เวลา 09:30 น. ทหารไทยยังคงโจมตีเข้าใส่กองกำลังกัมพูชา ที่ปราสาทคะนา เมืองโอร์เสม็ด ด้วยปืน 12.7 มม. และรถถังยิงถล่มเพิ่มเติม

-เวลา 10:00 น. ทหารไทยยังคงโจมตีเข้าใส่กองกำลังกัมพูชาอย่างหนักหน่วง โดยใช้ปืนครก, ปืนใหญ่ และรถถัง โดยเฉพาะในพื้นที่อานเสะ และปราสาทพระวิหาร


พลโทหญิงมาลีระบุว่า จนถึงเวลา 11:00 น. ทหารไทยยังคงยิงถล่มใส่กองทัพและที่ตั้งของพลเรือนกัมพูชา กองกำลังกัมพูชายังคงติดตามสถานการณ์ตามแนวชายแดน และอยู่ในสภาวะเตรียมพร้อมขั้นสูงตลอดเวลา


เธอย้ำว่า การเปิดฉากยิงของทหารไทย เกิดขึ้นหลังจากการยั่วยุนับครั้งไม่ถ้วนในช่วงหลายวันที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ฝ่ายไทยยังได้ทำการเผยแพร่ข่าวปลอมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการกล่าวหาและการใส่ร้ายกัมพูชา โดยมีเจตนาเพื่อสร้างความสับสนแก่ประชามติทั้งภายในชาติและระดับนานาชาติ และนำมาใช้เป็นข้ออ้างเพื่อก่อให้เกิดความตึงเครียดทางทหารกับกัมพูชาอีกครั้ง


ยิ่งไปกว่านั้น การโจมตีทหารไทยยังลามเข้าไปถึงหมู่บ้านในจังหวัดอุดรมีชัยและจังหวัดพระวิหาร ส่งผลให้พลเรือนจำนวนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ และบ้านเรือนประชาชนผู้บริสุทธิ์ถูกไฟไหม้เสียหายไปหลายหลัง ซึ่งทำให้ประชาชน ทั้งเด็ก และคนชรา จำเป็นต้องอพยพหาที่ปลอดภัยชั่วคราวในทันที ในการนี้ ทางการจังหวัดพระวิหารและจังหวัดอุดรมีชัย ได้ช่วยประสานงานช่วยเหลือประชาชนให้ลี้ภัยจากพื้นที่อันตรายมายังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว


พลโทหญิงมาลียืนยันว่า จากเหตุการณ์ข้างต้น กองกำลังกัมพูชายังไม่ได้ทำการตอบโต้แต่อย่างใด เนื่องจากยังคงเคารพและปฏิบัติตามการหยุดยิง และแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยข้อตกลงสันติภาพระหว่างกัมพูชาและไทย รวมถึงหลักการที่ได้ตกลงกันระหว่างฝ่ายกัมพูชา-ไทย บนพื้นฐานของการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี ความถูกต้อง และสอดคล้องตามกฎหมายระหว่างประเทศ


พลโทหญิงมาลี ยังกล่าวอีกว่ากระทรวงกลาโหมของกัมพูชา ขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมและโหดร้ายป่าเถื่อนนี้ และสิ่งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าฝ่ายไทยได้ละเมิดการหยุดยิงและ "ข้อตกลงสันติภาพระหว่างกัมพูชาและไทย" ที่ได้ลงนามกันไว้เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ภายใต้การเป็นสักขีพยานของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา และนายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบบราฮิม ของมาเลเซีย


นอกจากนี้ พลโทหญิงมาลียังเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศออกมาประณามการละเมิดข้อตกลง และกิจกรรมที่ผิดกฎหมายของไทยซ้ำแล้วซ้ำเล่านี้ โดยเรียกร้องให้ไทยรับผิดชอบต่อการกระทำอันหยาบช้า กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยยุติความเป็นปรปักษ์ทั้งหมดทันที พร้อมกันนี้ กัมพูชาเรียกร้องให้ฝ่ายไทยหันมาเคารพข้อตกลงหยุดยิง แถลงการณ์ร่วมว่าด้วยข้อตกลงสันติภาพ และพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ซื่อสัตย์ และสุจริตใจ


กัมพูชายังคงเคารพและปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง แถลงการณ์ร่วมว่าด้วยข้อตกลงสันติภาพระหว่างกัมพูชาและไทย ตลอดจนข้อตกลงทั้งหลายที่ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุร่วมกันมา ด้วยความสุจริตใจและความรับผิดชอบสูงสุด กัมพูชายึดมั่นในการแก้ไขความขัดแย้งโดยสันติวิธี สอดคล้องตามกฎหมายระหว่างประเทศ ตลอดจนสนธิสัญญา อนุสัญญา และข้อตกลงที่มีอยู่ และต่อต้านการข่มขู่หรือการใช้กำลัง โดยมุ่งหวังแสวงหาทางออกที่ยุติธรรม ถูกต้อง ยั่งยืน และสอดคล้องตามกฎหมายระหว่างประเทศ


ต่อมา ทางการกัมพูชาเปิดเผยว่ามีพลเรือนได้รับบาดเจ็บ 3 รายที่จังหวัดอุดรมีชัย โดยรองผู้บัญชาการจังหวัดอ้างว่าประชาชนเหล่านี้ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของกองทัพไทย และขณะนี้กำลังเข้ารับการรักษาตัว