กัมพูชานำ “ทองคำสำรอง” ฝากจีน ดันจีนขึ้นแท่นเป็นศูนย์กลางตลาดทองคำโลก

กัมพูชาตัดสินใจนำทองคำสำรองของประเทศไปฝากไว้กับจีน เพื่อสนับสนุนในการเป็นศูนย์กลางตลาดทองคำของโลก ท้าทายชาติมหาอำนาจตะวันตก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กัมพูชาได้ตัดสินใจนำทองคำสำรองของประเทศส่วนหนึ่งไปฝากไว้ในจีน ซึ่งถือเป็นการเปิดฉากยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ของจีน ที่ต้องการก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางตลาดทองคำโลก ท้าชนเจ้าตลาดเดิมอย่าง สวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ และสหรัฐอเมริกาที่ครองอิทธิพลมานานหลายทศวรรษ

แหล่งข่าวเผยว่าทองคำของกัมพูชา จะถูกนำไปเก็บไว้ที่โกดังนิรภัยของตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้ ในเขตปลอดอากรเมืองเซินเจิ้น โดยข้อตกลงนี้เป็นการจัดเก็บทองคำที่ซื้อใหม่มากกว่าการย้ายทองคำจากคลังสำรองที่มีอยู่เดิม ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้ ไม่ได้มีแค่กัมพูชาประเทศเดียว แต่มีรายงานว่าอีกหลายชาติ โดยเฉพาะประเทศพันธมิตรในโครงการแถบและเส้นทาง หรือ Belt and Road กำลังให้ความสนใจและอาจเดินตามรอยในไม่ช้า

สำหรับจีน นี่คือหมากเกมที่สำคัญอย่างยิ่ง การดึงทองคำสำรองจากต่างชาติเข้ามา จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตลาดเงินของจีนในเวทีโลก และที่สำคัญคือ เป็นการผลักดันให้ “เงินหยวน” มีบทบาทมากขึ้น ทั้งในการค้าและการเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ

ขณะที่ในมุมของกัมพูชา การย้ายทองคำครั้งนี้ถือเป็นการกระจายความเสี่ยงของทรัพย์สิน และเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเมื่อเดือนที่แล้ว ผู้ว่าการธนาคารกลางกัมพูชาได้เปิดเผยว่า กำลังพิจารณา “สถานที่สองสามแห่ง” สำหรับการจัดเก็บทองคำของประเทศ แต่ไม่ได้ระบุว่าจีนเป็นหนึ่งในสถานที่เหล่านั้นหรือไม่

ขณะที่ข้อมูลจากสภาทองคำโลก (World Gold Council) ระบุว่า ปัจจุบันธนาคารกลางกัมพูชามีทองคำสำรองอยู่ประมาณ 54 ตัน คิดเป็นหนึ่งในสี่ของทุนสำรองระหว่างประเทศมูลค่า 26,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 842,000 ล้านบาท)

แม้จะยังไม่เปิดเผยปริมาณทองคำที่กัมพูชาจะฝากไว้กับจีน แต่ความเคลื่อนไหวนี้ก็ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความเชื่อมั่นที่กัมพูชามีต่อระบบการเงินของจีนอย่างชัดเจน