“กัมพูชา” ของบหนุนจาก “นานาชาติ” อ้างช่วยกำจัดสารเคมีกว่า 70 ชนิด ผลพวงจากเหตุปะทะ “ไทย”

“กัมพูชา” ประกาศของบประมาณสนับสนุนและความช่วยเหลือจากนานาชาติ เพื่อนำมาจัดการกับสารเคมีอันตราย ที่อ้างว่ามีมากกว่า 70 ชนิด และเป็นมรดกตกค้างจากการสู้รบทางทหารกับไทยเมื่อหลายเดือนก่อน


สำนักงานแห่งชาติว่าด้วยการห้ามอาวุธเคมี นิวเคลียร์ ชีวภาพ และรังสี (NACW) ของกัมพูชา ได้ออกมาเรียกร้องขอการสนับสนุนด้านงบประมาณจากนานาชาติอย่างเร่งด่วน เพื่อนำไปใช้สำหรับภารกิจทำลายและกำจัดสารเคมีอันตรายที่ปนเปื้อนในพื้นที่ชายแดน ซึ่งกำลังเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม


กัมพูชาอ้างว่า เหตุปะทะตามแนวชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทยเป็นเวลา 5 วันในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทหารไทยใช้อาวุธหนักและอาวุธหลายประเภทโจมตีฐานที่มั่นของกัมพูชา ซึ่งไทยได้ยอมรับว่ามีการใช้อาวุธเคมี รวมถึงกระสุนฟอสฟอรัสขาวระหว่างการต่อสู้ การยอมรับดังกล่าวได้สร้างความวิตกกังวลอย่างมากต่อหน่วยงานด้านมนุษยธรรมและสิ่งแวดล้อม


พลเอกฟอร์น นารา เลขาธิการ NACW เปิดเผยในที่ประชุมคณะทำงานด้านเทคนิคว่า ได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่เก็บตัวอย่างดินและน้ำในบริเวณที่ต้องสงสัย และผลการตรวจสอบเบื้องต้นก็เป็นเรื่องน่าตกใจอย่างยิ่ง


เขากล่าวว่า สิ่งที่กัมพูชากำลังประสบพบเจอนั้นร้ายแรงกว่าแค่ทุ่นระเบิด แต่มันเป็นสารเคมีมากกว่า 70 ชนิดที่เป็นอันตรายต่อทั้งมนุษย์ สัตว์ และระบบนิเวศ ทั้งในระยะกลางและระยะยาว ปัญหานี้จำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและงบประมาณเพื่อจัดการอย่างถูกวิธี


ด้วยเหตุนี้ เลขาธิการ NACW จึงได้วิงวอนโดยตรงไปยังประเทศคู่พัฒนาและองค์กรระหว่างประเทศให้พิจารณาผนวกภารกิจการล้างสารเคมีและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่มีอยู่แล้ว โดยเฉพาะโครงการที่สนับสนุนสำนักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิดและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแห่งกัมพูชา (CMAA) เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างบูรณาการและมีประสิทธิภาพสูงสุด