“นิวยอร์ก” ยื่นฟ้องแอปโซเชียล กล่าวหาเป็นต้นเหตุทำเยาวชนมีปัญหาสุขภาพจิต

ทางการนครนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกายื่นฟ้องแอปพลิเคชันสื่อสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก, กูเกิล, สแนปแชต, ติ๊กต็อก, และอีกมากมาย โดยกล่าวหาว่าแอปเหล่านี้เป็นต้นเหตุให้เยาวชนมีปัญหาสุขภาพจิต ด้วยการจงใจออกแบบแอปให้เกิดการเสพติด


คำฟ้องความยาว 327 หน้าที่ยื่นต่อศาลรัฐบาลกลางแมนฮัตตันเมื่อวานนี้ (8 ต.ค.) ได้มีการเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทเมตา ซึ่งเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม, อัลฟาเบท เจ้าของกูเกิลและยูทูบ, สแนป เจ้าของสแนปแชต และไบตแดนซ์ เจ้าของติ๊กต็อก โดยกล่าวหาว่า บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้แสวงหาผลกำไรโดยไม่สนความเสียหายด้วยการใช้ประโยชน์จากจิตวิทยาและระบบประสาทของเยาวชน เพื่อตรึงพวกเขาไว้หน้าจอ จนนำไปสู่หายนะ


คำฟ้องยังระบุอีกว่ากว่า 77% ของนักเรียนมัธยมปลายในนครนิวยอร์ก ยอมรับว่าใช้เวลากับหน้าจอ ทั้ง โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟน มากกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะนอนไม่หลับและการขาดเรียนเรื้อรัง จนคณะกรรมาธิการสาธารณสุขของนครนิวยอร์กต้องประกาศให้โซเชียลมีเดียเป็นภัยคุกคามด้านสาธารณสุขอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนมกราคม 2567


ที่น่าสนใจไปมากกว่านั้น ทางการนิวยอร์กยังกล่าวหาว่าโซเชียลมีเดียว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดพฤติกรรมซับเวย์เซิร์ฟฟิง (subway surfing) ” หรือการปีนป่ายด้านนอกขบวนรถไฟที่กำลังวิ่ง ซึ่งข้อมูลจากตำรวจระบุว่า พฤติกรรมนี้ได้คร่าชีวิตวัยรุ่นไปแล้วอย่างน้อย 16 รายนับตั้งแต่ปี 2566 โดยล่าสุดคือเด็กหญิงวัยเพียง 12 และ 13 ปี


การฟ้องร้องนี้ ทางการนิวยอร์กได้ร่วมมือกับหน่วยงานรัฐบาลอื่นๆ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และบุคคลทั่วไป ซึ่งมีคดีลักษณะเดียวกันนี้รวมอยู่กว่า 2,050 คดี


ส่วนหนึ่งของคำฟ้องระบุว่า จำเลยต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่พวกเขาก่อขึ้น แต่ตอนนี้ กลายเป็นว่าเมืองต้องเป็นผู้แก้ไขปัญหาและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่างบประมาณมหาศาลจากภาษีประชาชนต้องถูกนำมาใช้เยียวยาวิกฤตสุขภาพจิตของเยาวชน


ด้านโฆษกของ Google ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า YouTube เป็นบริการสตรีมมิง ไม่ใช่โซเชียลเน็ตเวิร์ก ขณะที่จำเลยรายอื่น ๆ ยังคงสงวนท่าที