“ทรัมป์” ประกาศปฏิรูปกองทัพ ห้ามทหารลงพุง-ไว้เครา “รมว.สงคราม” ลั่นถ้าไม่พอใจก็ลาออกไป

กระทรวงกลาโหมภายใต้นำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสงคราม (กลาโหม) ประกาศปฏิรูปกองทัพครั้งประวัติศาสตร์ห้ามนายพลลงพุง สั่งกำลังพลทุกคนต้องชั่งน้ำหนักปีละ 2 ครั้ง และสั่งแบนการไว้หนวดเคราทั่วทั้งกองทัพอย่างเด็ดขาด


โดยในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้านายทหารระดับสูงกว่า 800 นาย ณ ฐานทัพนาวิกโยธินควอนติโก รัฐเวอร์จิเนีย นายเฮกเซธ ประกาศว่า ภารกิจของกระทรวงสงครามที่ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ มีเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือ การรบ, การเตรียมพร้อมรบ และการคว้าชัยชนะในสงคราม


นโยบายใหม่นี้กำหนดให้ทหารทุกนาย ไม่ว่าชายหรือหญิง ต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกายเดียวกัน ซึ่งก็คือ "มาตรฐานขั้นสูงสุดของทหารชาย" เท่านั้น โดยเฮกเซธย้ำว่านี่คือเรื่องคอขาดบาดตาย ทุกคนต้องปฏิบัติตาม


เขายังได้ยกเหตุผลส่วนตัวโดยอ้างถึงลูกชายวัย 15 ปีของเขาว่า เขาไม่อยากให้ลูกชายต้องไปร่วมรบเคียงข้างทหารที่ขาดความพร้อมทางร่างกาย หรือสังกัดหน่วยที่มีทหารหญิงซึ่งไม่สามารถปฏิบัติภารกิจได้ตามมาตรฐานเดียวกับผู้ชาย


มาตรการคุมเข้มนี้จะถูกบังคับใช้อย่างจริงจังกับกำลังพลทุกระดับชั้น โดยเฮกเซธประกาศชัดว่า แม้แต่ “นายพลลงพุง" ที่นั่งบัญชาการอยู่ในเพนตากอน ก็ไม่มีข้อยกเว้น และจะต้องเข้ารับการชั่งน้ำหนักปีละสองครั้งเช่นกัน


นอกจากนี้ กระทรวงสงครามยังสั่งห้ามทหารไว้หนวดเคราโดยเด็ดขาดด้วย ยกเว้นหน่วยรบพิเศษ โดยเฮกเซธได้ประกาศกร้าวว่า "ไม่มีเคราอีกต่อไป! ยุคแห่งภาพลักษณ์ที่ไม่เป็นมืออาชีพจบสิ้นแล้ว" พร้อมทิ้งท้ายประโยคเผ็ดร้อนถึงนายทหารที่ไม่เห็นด้วยว่า "ถ้าไม่พอใจ ก็ลาออกไปซะ"


ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อ โดยบอกว่า ถ้าหากใครไม่ชอบสิ่งที่เขาพูด ก็ควรจะออกจากห้องประชุมนี้ไป ซึ่งแน่นอนว่า ยศและอนาคตของพวกเขาก็จะจบลงทันที แม้จะเป็นเพียงการเล่นมุก แต่ข้อความดังกล่าวก็เป็นการตอกย้ำคำพูดของทรัมป์ที่ได้บอกกับผู้สื่อข่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาจะปลดทหารทุกนายที่ไม่ชอบเขา


ประธานาธิบดีทรัมป์ยังบอกว่าในฐานะที่เขาเป็นประธานาธิบดี เขาจะสนับสนุนนายเฮกเซธอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังได้เสนอแนวคิดสุดโต่งให้ใช้เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องอาชญากรรมสูงอย่างชิคาโกเป็น สนามฝึกซ้อมรบสำหรับทหารด้วย โดยเปรียบเทียบว่าปัญหาอาชญากรรมและผู้อพยพผิดกฎหมายคือ "การรุกรานจากภายใน" ที่กองทัพต้องเข้าจัดการ