ต่างประเทศ
ผอ.ทุ่นระเบิดกัมพูชา กล่าวหา ไทยยิงฝ่ายเดียว อ้างพบกระสุนปืนครกตกฝั่งเขมร
28 ก.ย. 2568
174 views
นายแฮง รัตนา ผู้อำนวยการสำนักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (CMAA) โพสต์ภาพและข้อความ เมื่อกลางดึกวันที่ 27 ก.ย. 68 ที่ผ่านมา ระบุว่า กรณีที่ทหารสยาม ยิงปืนครกเข้ามายังอธิปไตยและดินแดนกัมพูชา รวมทั้งกองกำลังกัมพูชา เมื่อวันที่ 27 กันยายน ค.ศ.2025 นี้ เป็นการยิงใส่กัมพูชาก่อนอย่างชัดเจน ไม่อาจโต้แย้งได้ เพราะกองกำลังกัมพูชาได้ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้นำอย่างเคร่งครัด อดทน และไม่ยิงตอบโต้แต่อย่างใด
เหตุการณ์การยิงปืนครกในวันนี้ มีลักษณะเดียวกับกรณีที่ทหารสยามได้ยิงปืนครกเพียงฝ่ายเดียว เข้ามายังพื้นที่บ้าน Phlouk Damrei ตำบล Thmor Da อำเภอ Veal Veaeng จังหวัดPursat เมื่อเวลา 05:01 น. ของวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ.2025 โดยมีเจตนาขยายแนวสมรภูมิ ถ้าเป็นการยิงฝ่ายเดียว แล้วจะไปโต้เถียงได้อย่างไรว่าใครยิงก่อนใครยิงหลัง? ถ้ามีเพียงฝ่ายเดียวที่ยิง ก็ชัดเจนว่าฝ่ายนั้นคือผู้ที่ยิงก่อน!
ดังที่สมเด็จเตโช ได้ให้ข้อแนะนำไว้ว่า การเก็บรักษาหลักฐานจากร่องระเบิดนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในกรณีที่ทหารสยามยิงเข้ามาในพื้นที่ตำบล Thmor Da ที่ผ่านมา หน่วย CMAC ได้ร่วมกับกองทัพลงพื้นที่ตรวจสอบร่องระเบิด และสามารถระบุได้ว่า มีร่องระเบิดจากปืนครกขนาด 105 มม. จำนวน 6 จุด ที่ระเบิดทั้งหมด (จากจำนวนที่ยิงเข้ามา 21 นัด) โดยจากการวิเคราะห์ซากกระสุน 105 มม. ดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญพบว่า ในจำนวนนั้นมี 4 นัด เป็นกระสุนที่บรรจุสารเคมีฟอสฟอรัสขาว (WP) และอีก 2 นัด เป็นกระสุนระเบิดสังหารบุคคล
จากการวิเคราะห์นี้ สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า กระสุนดังกล่าวผลิตจากประเทศใด และใครคือผู้ใช้อาวุธนั้น หลักฐานทั้งหมดที่จังหวัดPursat ได้ยืนยันอย่างชัดเจนแล้วว่า ไทยคือผู้ยิงเข้ามาในดินแดนกัมพูชา และกองกำลังกัมพูชาไม่ได้มีการใช้อาวุธตอบโต้กลับแม้แต่นัดเดียว ดังนั้นไม่จำเป็นต้องอธิบายอีกว่าใครเป็นฝ่ายยิงก่อน เหตุการณ์การใช้อาวุธปืนครกที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็เช่นเดียวกัน คือฝ่ายสยามเป็นผู้ยิงก่อน เพราะกัมพูชาไม่ได้มีการใช้อาวุธใดๆ เลย
แท็กที่เกี่ยวข้อง ชายแดนไทยกัมพูชา ,ผอ.ทุ่นระเบิด