ต่างประเทศ
“สหรัฐฯ-จีน” ประกาศบรรลุกรอบข้อตกลงโอนย้ายกรรมสิทธิ์ TikTok
16 ก.ย. 2568
101 views
สหรัฐฯ และจีนประกาศบรรลุกรอบข้อตกลงในการโอนย้ายกรรมสิทธิ์ TikTok ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐฯ แล้ว เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) รอการยืนยันในการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
หลังจากการประชุมกับคณะเจรจาของจีนในกรุงมาดริด นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า เส้นตายวันที่ 17 กันยายน ที่อาจทำให้แอปถูกระงับการใช้งานในสหรัฐฯ เป็นแรงผลักดันให้ฝ่ายเจรจาของจีนยอมบรรลุข้อตกลง โดยเส้นตายอาจถูกขยายออกไปอีก 90 วัน เพื่อให้ข้อตกลงเสร็จสิ้นสมบูรณ์ แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดของข้อตกลง
นายเบสเซนต์ ยืนยันว่า สหรัฐฯ ให้ความสำคัญสูงสุดกับความมั่นคงของชาติ ในขณะที่ฝ่ายจีนต้องการรักษา เอกลักษณ์ความเป็นจีน ซึ่งถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์เอาไว้ ซึ่งข้อตกลงนี้จะหาทางออกที่ลงตัวสำหรับทั้งสองฝ่าย
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ใช้งาน TikTok และมีผู้ติดตามถึง 15 ล้านคน ได้โพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์มทรูธโซเชียลว่า "ข้อตกลงเกี่ยวกับบริษัท “แห่งหนึ่ง” ที่คนหนุ่มสาวในประเทศของเราอยากจะรักษาไว้มากก็ได้บรรลุผลแล้ว พวกเขาจะมีความสุขมาก!"
นอกจากนี้ เขายังกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่ารัฐบาลยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องที่ว่าจีนจะยังถือหุ้นในบริษัทหรือไม่ หลังถูกโอนกรรมสิทธิ์มาเป็นของสหรัฐฯ แต่ก็คาดว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม ต้องรอการยืนยันจากการหารือกับประธานาธิบดีสีในวันศุกร์นี้
จนถึงตอนนี้ ทางสหรัฐฯ ยังไม่เปิดเผยว่าบริษัทใดในสหรัฐฯ จะเข้ามาเป็นเจ้าของใหม่ของ TikTok ส่วนเรื่องอัลกอริทึม ก็ยังไม่ชัดเจนว่า ByteDance บริษัทแม่ จะส่งมอบเทคโนโลยีหัวใจสำคัญของแอปด้วยหรือไม่ หรือจะเป็นเพียงการให้สิทธิ์ใช้งาน
นายหวัง จิงเทา เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานกำกับดูแลด้านไซเบอร์ของจีนกล่าวว่า ข้อตกลงอาจเป็นการให้สิทธิ์ใช้งานทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงอัลกอริทึม
แม้จะดูเหมือนเป็นข่าวดี แต่ข้อตกลงนี้เป็นเพียงกรอบเบื้องต้นเท่านั้น นายหลี่ เฉิงกัง ผู้แทนการค้าจีน เรียกมันว่า ความเห็นพ้องต้องกันในกรอบการทำงาน ซึ่งสะท้อนว่าอาจยังมีรายละเอียดที่ต้องถกเถียงกันอีกมาก
อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สหรัฐฯ และจีนประกาศว่าใกล้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับ TikTok เพราะก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายก็เคยออกมาประกาศเรื่องนี้แล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ประสบความสำเร็จ
แท็กที่เกี่ยวข้อง