“ฟิลิปปินส์” ประกาศกวาดล้างคอร์รัปชัน หวั่นประท้วงเดือดเหมือนอินโดนีเซีย-เนปาล

ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ ประกาศกวาดล้างการทุจริตในโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน หวังสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ก่อนที่จะมีการประท้วงต่อต้านคอร์รัปชันครั้งใหญ่ หวั่นสถานการณ์จะรุนแรงเหมือนกับอินโดนีเซียและเนปาล


ประธานาธิบดีมาร์กอสจูเนียร์ให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า การกวาดล้างการทุจริตครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ และจะแตกต่างจากอดีต โดยเขาได้แต่งตั้งอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาให้เป็นผู้นำคณะกรรมการสอบสวนการทุจริตใหม่แล้ว และกล่าวว่าจะดำเนินการลงโทษผู้กระทำผิดทุกคนโดยไม่มีข้อยกเว้น หลังจากที่การไต่สวนของรัฐสภาได้พาดพิงถึงนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลไปแล้วหลายคน


คณะกรรมการชุดนี้จะทำการสอบสวนข้อกล่าวหาการทุจริตในโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะโครงการป้องกันน้ำท่วมที่อื้อฉาวและถูกตรวจสอบอย่างหนัก หลังเกิดน้ำท่วมจากพายุมรสุมในหลายเมืองตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา


ประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์แฉว่า นับตั้งแต่ปี 2565 รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ทุ่มงบประมาณไปกับการควบคุมน้ำท่วมสูงถึง 545,000 ล้านเปโซ (ราว 3 แสนล้านบาท) แต่ถูกตรวจพบความผิดปกติหลายอย่าง บางโครงการไม่เคยถูกสร้างขึ้นมาจริงๆ และมีผู้รับเหมาเพียง 15 รายที่ได้รับส่วนแบ่งถึง 20% ของงบประมาณทั้งหมด ซึ่งจุดชนวนความไม่พอใจในหมู่ประชาชน


ประกาศนี้มีขึ้นหลังจากกลุ่มภาคประชาสังคม รวมถึงผู้นำทางศาสนา วางแผนจัดการประท้วงต่อต้านคอร์รัปชันครั้งใหญ่ ในวันที่ 21 กันยายนนี้


ประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์กล่าวว่า ถ้าหากเขาไม่ได้เป็นประธานาธิบดี ก็คงลงถนนไปประท้วงเหมือนกัน นอกจากนี้ เขายังได้เรียกร้องให้ประชาชนจัดการประท้วงอย่างสันติ หลังจากเกิดสถานการณ์การประท้วงที่รุนแรงในเนปาลและอินโดนีเซีย


นอกจากนี้ ผู้นำฟิลิปปินส์ยังได้สั่งยกเลิกโครงการป้องกันน้ำท่วมทั้งหมดในปี 2569 และนำงบประมาณไปสนับสนุนด้านการศึกษาและสาธารณสุขแทน พร้อมยืนยันว่านี่ไม่ใช่เกมการเมือง แต่เป็นเรื่องของตัวเลขและความรับผิดชอบที่ต้องทวงคืนเงินของประชาชนกลับมา