ต่างประเทศ
“เขมร” งอแงไม่หยุดปมขายกริพเพนให้ “ไทย” ชี้ “สวีเดน” สนใจผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจมากกว่าสันติภาพ
27 ส.ค. 2568
481 views
สำนักข่าวแคมโบเดียเนสส์ (Cambodianess) ของกัมพูชารายงานว่า การที่สวีเดนขายเครื่องบินกริพเพนให้กับประเทศไทย ในขณะที่กำลังเกิดความขัดแย้งบริเวณชายแดนนั้นถือเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม โดยผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศมองว่า สวีเดนให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ และยังเป็นการเติมเชื้อไฟให้กับความตึงเครียด
ในรายงานระบุว่า หลังจากที่ประเทศไทยได้ลงนามข้อตกลงซื้อเครื่องขับไล่กริพเพนจำนวน 4 ลำจากสวีเดน มูลค่า 19,500 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา นักวิเคราะห์นโยบายต่างประเทศหลายคน รวมถึงชาวกัมพูชาต่างพากันออกมาออกมาวิพากษ์วิจารณ์ โดยพิจารณาจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่ไทยใช้เครื่องบินขับไล่โจมตีกัมพูชาระหว่างวันที่ 24 – 28 กรกฎาคม ทั้ง ๆ ที่กัมพูชาไม่มีเครื่องบินขับไล่
นายวัน บุนนา วิเคราะห์นโยบายต่างประเทศประจำภูมิภาค และหัวหน้าหน่วยวิจัยและสนับสนุนของสมาคมเครือข่ายเยาวชนกัมพูชากล่าวว่า สวีเดนกำลังให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของประเทศของชาติเหนือสิ่งอื่นใด โดยเฉพาะการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย
นายวันย้ำว่า การกระทำของสวีเดนแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สวีเดนได้รับผลประโยชน์จากการขายเครื่องบินขับไล่ให้กับประเทศไทย ทั้ง ๆ ที่ประเทศไทยกำลังมีความขัดแย้งกับเพื่อนบ้าน
นักวิเคราะห์รายนี้ยังกล่าวหาอีกว่า การทำข้อตกลงนี้ดูเหมือนสวีเดนสนับสนุนให้ไทยยกระดับความตึงเครียด อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าแม้สวีเดนจะมีสิทธิที่จะจัดหาอาวุธให้กับประเทศใดก็ได้ แต่การกระทำดังกล่าวทำให้ชาวกัมพูชา ซึ่งเคยยกย่องสวีเดนว่าเป็นชาติที่ให้การสนับสนุนด้านสิทธิมนุษยชน อาจมีมุมมองที่เปลี่ยนไป
เช่นเดียวกับนายเสือน สำ (Suen Sam) ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศจากราชบัณฑิตยสถานแห่งกัมพูชา กล่าวว่า ข้อตกลงนี้ไม่เพียงแต่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมเท่านั้น แต่ยังถูกวางแผนไว้แล้ว เพราะดูเหมือนว่าสวีเดนจะให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันก็ใช้หลักการต่างๆ ของตนเองเป็นหน้ากากบนเวทีโลก
นักวิเคราะห์รายนี้ยังกล่าวหาอีกว่า การรุกรานดินแดนกัมพูชาของประเทศไทยนั้นมีรากฐานมาจากประวัติศาสตร์อย่างชัดเจน และความตั้งใจนี้จะไม่สิ้นสุด ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการรุกรานขึ้นอีกในอนาคต
สื่อกัมพูชายังรายงานอีกว่า สวีเดนได้ปิดสถานเอกอัครราชทูตประจำกรุงพนมเปญไป เมื่อปี 2564 และปิดสำนักงานต่างๆ อย่างสมบูรณ์แบบ ในเดือนกันยายนปี 2567 โดยให้เหตุผลว่า กัมพูชามีปัญหาเรื่องการปรับปรุงประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน แต่ไม่กี่วันต่อมา สวีเดนกลับส่งนักการทูตไปประจำการที่เกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยน้อยที่สุด
แท็กที่เกี่ยวข้อง