สื่อนอกตีข่าว เหตุปะทะชายแดน หลายสำนักอ้างอิงข้อมูลฝ่าย “กัมพูชา” ระบุ “ไทย” โจมตีก่อน

หลังจากที่เกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาบริเวณพรมแดน ล่าสุด สื่อต่างประเทศหลายสำนักพากันรายงานข่าวและจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด


เว็บไซต์ข่าว BBC ของอังกฤษ ได้รายงาน โดยพาดหัวข่าวว่า กองทัพไทย-กัมพูชายิงปะทะกันที่ชายแดนพิพาท (Thai, Cambodian troops exchange fire at disputed border) และบอกว่าเหตุปะทะเกิดขึ้นที่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นจุดที่มีความขัดแย้งสูงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา


BBC รายงานโดยอ้างอิงข้อกล่าวหาของกองทัพกัมพูชา ที่ระบุว่าฝ่ายไทยเปิดฉากยิงก่อน ทำให้ทหารกัมพูชาต้องตอบโต้ ขณะเดียวกัน ก็รายงานข้อมูลจากกองทัพไทยว่ากองทัพกัมพูชาส่งโดรนลาดตระเวนเข้ามาในพื้นที่ ก่อนที่จะส่งทหารถืออาวุธหนักเข้ามาในพื้นที่ปราสาท


ในรายงานของ BBC ยังบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาอยู่ในภาวะย่ำแย่ที่สุดในรอบกว่า 10 ปี สืบเนื่องจากเหตุปะทะด้วยอาวุธเมื่อเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย


เช่นเดียวกับเว็บไซต์ข่าว Channel News Asia ของสิงคโปร์ ที่รายงานว่ากองทัพของทั้งสองประเทศต่างออกมากล่าวหาซึ่งกันและกันว่าเป็นผู้เปิดฉากยิงก่อน หลังจากเกิดความคึงเครียดขึ้นหลายสัปดาห์


Channel News Asia รายงานข้อมูลจากฝ่ายกัมพูชาว่า ทหารไทยบุกโจมตีก่อน ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการยั่วยุ และกองทัพกัมพูชาได้ตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง ส่วนข้อมูลจากฝ่ายไทย Channel News Asia บอกว่า กองทัพกัมพูชาได้เปิดฉากยิงในพื้นที่ใกล้กับปราสาทตาเมือนธมก่อน และฝั่งกัมพูชาได้ส่งโดรนลาดตระเวนเข้าไปตรวจสอบที่ปราสาท ก่อนส่งทหารพร้อมอาวุธหนักขึ้นไป


Channel News Asia ยังได้รายงานการเปิดเผยของนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทยที่ระบุว่า สถานการณ์บริเวณชายแดนยังคงเปราะบางและต้องได้รับการแก้ไขด้วยความระมัดระวัง โดยอาศัยมาตรการที่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ และเหตุปะทะดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากฝ่ายไทยเรียกทูตกลับประเทศ พร้อมกับขับทูตกัมพูชาออกจากกรุงเทพมหานคร หลังเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิด


ส่วนสำนักข่าว AP ของสหรัฐอเมริกาบอกว่าทหารไทยและกัมพูชาได้ยิงใส่กันในพื้นที่พรมแดนพิพาท หลังจากที่ทั้งสองประเทศประกาศลดความสัมพันธ์ทางการทูต


AP บอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผู้คนต่างพากันวิ่งหนีออกจากบ้านเรือน และไปซ่อนตัวในหลุมหลบภัย หลังมีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะๆ โดยทั้งสองประเทศต่างกล่าวหาซึ่งกันและกันว่าเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อน