ต่างประเทศ

“นักวิชาการกัมพูชา” ซัด “ไทย” ไม่ใช่เหยื่อ แต่เป็นขโมย หลังกล่าวหา “กัมพูชา” นำ 22 วรรณกรรมไทยขึ้นทะเบียนมรดกโลก

15 ก.ค. 2568

753 views

เว็บไซต์ข่าวพนมเปญโพสต์ (Phnom Penh Post) เผยแพร่บทความซึ่งเขียนโดย นาย Roth Santepheap นักวิเคราะห์ภูมิรัฐศาสตร์ชาวกัมพูชา โดยระบุว่าคนไทยบางส่วนกล่าวหากัมพูชาว่า “ขโมย” ผลงานทางวัฒนธรรมของไทย ทั้งๆ ที่ผลงานเหล่านั้นมีอยู่ก่อนยุคอยุธยา


บทความระบุว่า "อีกครั้งที่ประเทศไทยสวมบทเหยื่อ พร้อมกับลบประวัติศาสตร์การฉกฉวยทางวัฒนธรรมที่ทำมานานหลายศตวรรษอย่างง่ายดาย กระแสความไม่พอใจครั้งล่าสุดในโลกออนไลน์ของไทยต่อกรณีที่กัมพูชาขึ้นทะเบียนวรรณกรรม 22 เรื่องที่เชื่อมโยงกับนาฏศิลป์ชั้นสูงของกัมพูชานั้น ไม่เพียงแต่เป็นความเข้าใจผิด แต่ยังเต็มไปด้วยความย้อนแย้งทางประวัติศาสตร์อย่างน่ารังเกียจ"


รายงานดังกล่าวยืนยันว่า กัมพูชาไม่ได้ขโมยมรดกทางวัฒนธรรมของไทย แต่ประเทศไทยต่างหากที่ได้รับประโยชน์จากประเพณี ตำรา และศิลปะของเขมรเป็นเวลาหลายศตวรรษ


กัมพูชาไม่ได้กำลังอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของในวรรณกรรมของไทย แต่กำลังขึ้นทะเบียนวรรณกรรมดังกล่าวในฐานะผลงานที่ถูกแสดงและสืบทอดภายใต้กรอบของนาฏศิลป์ราชสำนักและมรดกทางการละครของตนเองอย่างชอบธรรม ซึ่งเป็นประเพณีที่เคยหยุดชะงักไปเพราะการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ก่อนจะได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ระหว่างปี พ.ศ. 2522 ถึง 2545 การแสดงเหล่านี้ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ แต่เป็นการตีความตามเอกลักษณ์ของกัมพูชา ซึ่งมีรากฐานมาจากการปฏิบัติที่เก่าแก่หลายศตวรรษ และมีมาก่อนที่ราชสำนักไทยจะนำไปดัดแปลง


นักวิชาการคนดังกล่าวยังระบุว่า สิ่งที่ประเทศไทยเรียกว่า “ความเป็นไทย” ในทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม รูปแบบการร่ายรำ หรือมหากาพย์วรรณกรรม ล้วนมีต้นกำเนิดหรือได้รับอิทธิพลอย่างสูงจากจักรวรรดิขอมโบราณ ซึ่งเคยแผ่ขยายอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทยในปัจจุบัน เมื่ออยุธยาเรืองอำนาจขึ้นมา ก็ได้ซึมซับวัฒนธรรมเหล่านี้ไป และเมื่ออำนาจของจักรวรรดิขอมอ่อนแอลง ไม่ใช่แค่ดินแดนที่ถูกยึดไป แต่ยังเป็นวัฒนธรรมที่ถูกฉกฉวยไปด้วย


บทความยังอ้างว่า วรรณกรรมเรื่องรามเกียรติ์ที่ไทยระบุว่าดัดแปลงมาจากรามายณะของอินเดียนั้น แท้จริงแล้วได้รับการถ่ายทอดผ่านทางราชสำนักขอม เช่นเดียวกับวรรณกรรมเรื่อง “อิเหนา” และ “อุณรุท” ที่ไม่ใช่ของไทยแต่เพียงผู้เดียว แต่เป็นส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกัมพูชาก็มีฉบับของตนเองที่ถูกนำมาแสดงและปรับให้เข้ากับท้องถิ่นมานานก่อนของไทย


นอกจากนี้ บทความยังกล่าวหาว่าไทยเคยปล้นสะดมวัดวาอารามของขอม ขโมยคัมภีร์ใบลาน และฉกฉวยเอาประเพณีต่างๆ ไปเป็นของตน แม้แต่กรมศิลปากรของไทย ที่วันนี้ได้รับมอบหมายให้ "ตรวจสอบ" การขึ้นทะเบียนของกัมพูชา ก็ตั้งอยู่บนมรดกแห่งการฉกฉวยทางวัฒนธรรมอันยาวนานนี้เช่นกัน


"เมื่อกัมพูชายื่นเอกสารต่อยูเนสโกเพื่ออนุรักษ์ประเพณีการแสดงวรรณกรรมภายในขอบเขตวัฒนธรรมของตน ไทยกลับมาร้องโวยวายว่าถูกขโมย จริง ๆ แล้วประเทศไทยไม่ใช่เหยื่อ แต่เป็นขโมยที่เรียกร้องให้คนอื่นมองว่าตนเป็นเจ้าของต่างหาก"


ในช่วงท้าย รายงานสรุปว่า กัมพูชามีสิทธิ์ทุกประการที่จะฟื้นฟูและขึ้นทะเบียนศิลปะ นาฏศิลป์ และละครของตนเอง และยืนยันว่ากัมพูชาไม่ได้กำลังขโมยวัฒนธรรมของไทย

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ