ผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา ส่งสารขอคนไทยอย่าเกลียดแรงงาน ชี้คนเหล่านี้เป็นเหยื่อของ “ฮุนเซน”

“สม รังสี” ผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา ส่งสารถึงคนไทย วิงวอนอย่าเกลียดชังแรงงานกัมพูชา 2 ล้านคนในประเทศไทย ชี้ผู้คนเหล่านี้ล้วนหนีความยากจน การกดขี่ การทุจริตในบ้านเกิด ที่ล้วนเป็นเหยื่อของ “ฮุน เซน”

นายสม รังสี ผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชาซึ่งกำลังลี้ภัยในฝรั่งเศส ได้ออกแถลงการณ์ในรูปแบบจดหมายเปิดผนึกถึงประชาชนชาวไทย ลงวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 เพื่อวิงวอนขอความเห็นใจต่อแรงงานชาวกัมพูชากว่า 2 ล้านคนในประเทศไทย ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนที่เพิ่มสูงขึ้น

ในเอกสารดังกล่าว นายสม รังสีระบุว่า “ถึง พี่น้องชาวไทยที่รัก ในขณะที่ความตึงเครียดตามแนวชายแดนร่วมของเราทวีความรุนแรงขึ้น ข้าพเจ้าขอสื่อสารมายังท่านไม่เพียงในฐานะผู้นำทางการเมือง แต่ในฐานะเพื่อนบ้าน ผู้ที่มีวัฒนธรรมร่วมกัน มีศรัทธาในพุทธศาสนาเช่นเดียวกัน และมีความหวังอย่างสุดซึ้งต่อสันติภาพและความเข้าใจในภูมิภาคของเรา

ในห้วงเวลาที่ละเอียดอ่อนนี้ ข้าพเจ้าขอวิงวอนต่อความเห็นอกเห็นใจของท่าน ได้โปรดอย่าตำหนิหรือกระทำการอันไม่เป็นธรรมต่อแรงงานกัมพูชาผู้บริสุทธิ์ในประเทศไทย พวกเขากว่า 2 ล้านคน ซึ่งมีทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย อาศัยและทำงานอยู่ในประเทศไทยที่สวยงามของท่าน พวกเขาไม่ใช่ทูตหรือตัวแทนของระบอบการปกครองกัมพูชา แต่พวกเขาคือเหยื่อของระบอบนั้น

ผู้อพยพเหล่านี้ได้หลบหนีออกจากบ้านเกิดเพื่อหนีความยากจน การกดขี่ และการทุจริตคอร์รัปชันภายใต้การนำของ ฮุน เซน ผู้นำเผด็จการที่ยึดมั่นในอำนาจด้วยความรุนแรงและความหวาดกลัว ชาวกัมพูชาส่วนใหญ่ ทั้งในและนอกประเทศ ต่างปฏิเสธการปกครองของเขา ความพยายามของเขาในการสถาปนาราชวงศ์ทางการเมืองกำลังถูกต่อต้านมากขึ้นเรื่อยๆ และจะไม่มีวันยั่งยืน

ฮุน เซน ไม่ใช่ประเทศกัมพูชา เขาเป็นบุคคลอัปยศที่ได้เปลี่ยนแปลงชาติของเราให้กลายเป็นแหล่งพักพิงขององค์กรอาชญากรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ดำเนินการโดยชาวจีน ซึ่งขณะนี้ทางการไทยกำลังดำเนินการปราบปรามอย่างถูกต้อง แทนที่จะร่วมมือในการต่อสู้กับเครือข่ายอาชญากรรมเหล่านี้ เขากลับตอบโต้ด้วยการปิดพรมแดนและใช้โฆษณาชวนเชื่อต่อต้านไทย เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากความเกี่ยวข้องของตนเองอย่างสิ้นหวัง

นี่ไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างสองชาติ แต่เป็นการเผชิญหน้าระหว่างหลักนิติธรรมของไทยกับระบอบอาชญากรรมในพนมเปญ ประชาชนชาวกัมพูชา รวมถึงผู้ที่ทำงานในประเทศไทย ไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของระบบฮุน เซน พวกเขากำลังหลบหนีออกจากระบบนั้น

แรงงานเหล่านี้คือเพื่อนบ้านของท่าน คือเพื่อนชาวพุทธ และคือผู้ที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของท่าน พวกเขาเพียงต้องการความปลอดภัย ศักดิ์ศรี และโอกาสที่จะได้จุนเจือครอบครัว ข้าพเจ้าขอวิงวอนด้วยความเมตตาและความกรุณา ได้โปรดเข้าอกเข้าใจและอดทนอดกลั้นต่อพวกเขาต่อไป

ประชาชนของเราทั้งสองชาติอยู่เคียงข้างกันมานานหลายศตวรรษ อย่าให้คำโกหกและการบงการของคนเพียงคนเดียวมาสร้างความแตกแยกให้แก่เรา ฮุน เซน เป็นเพียงบุคคลที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่ภราดรภาพระหว่างประชาชนของเรานั้นเป็นนิรันดร์ ด้วยความเคารพและความหวังอย่างสุดซึ้ง”