ต่างประเทศ

“จีน” แสดงจุดยืนเป็นกลางปัญหาชายแดน “ไทย-กัมพูชา” หนุนเจรจาแก้ปัญหา

12 ก.ค. 2568

90 views

ในการเจรจานอกรอบที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ระหว่างรัฐมนตรีของจีนกับไทยเมื่อวานนี้ จีนแสดงจุดยืนที่เป็นกลางต่อกรณีข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา สนับสนุนให้ยุติข้อพิพาทด้วยการเจรจา


สำนักข่าว CCTV ของทางการจีนรายงานว่า จากการหารือนอกรอบระหว่างนายหวังอี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนและนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย ที่กรุงกัวลา ลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียเมื่อวานนี้ประเด็นข้อพิพาทไทย กัมพูชานั้น จีนได้ให้คำมั่นจะดำเนินบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในการส่งเสริมการเจรจาระหว่างไทยกับกัมพูชา


โดยนายหวังอี้ เน้นย้ำว่า ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นเพื่อนบ้านและมิตรที่ดีของจีน จีนก็หวังว่าทั้งสองฝ่ายจะจัดการเรื่องนี้ผ่านการเจรจา และปรึกษาหารือกันด้วยเจตนารมณ์แห่งไมตรีจิต มุ่งลดความตึงเครียดและฟื้นฟูเสถียรภาพโดยเร็ว ในส่วนจีนก็จะรักษาจุดยืนที่เป็นกลาง และมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ


ขณะที่นายมาริสกล่าวกับนายหวังอี้ว่า จีนเป็นมิตรที่ไว้วางใจได้ของไทย ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ทั้งสองประเทศได้ธำรงไว้ ซึ่งความไว้วางใจซึ่งกันและกันและเคารพในผลประโยชน์หลักของกันและกัน จิตวิญญาณของ “ไทยและจีนใกล้ชิดกันราวกับคนในครอบครัวเดียวกัน” นี้ได้ยืนหยัดผ่านกาลเวลาที่ยาวนาน และการสร้างประชาคมไทย-จีนที่มีอนาคตร่วมกันยังคงก่อให้เกิดผลลัพธ์อันดีงาม


ในโอกาสนี้ไทยยืนยันว่า ไทยยึดมั่นในหลักการจีนเดียวอย่างเหนียวแน่น และมุ่งหวังที่จะเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนระดับสูงและความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมกับจีนในด้านการเชื่อมโยง การค้า การเกษตร และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ นอกจากนี้ไทยยังสนับสนุนลัทธิพหุภาคีและระบบการค้าพหุภาคีอย่างมั่นคง และเรียกร้องให้ฟื้นฟูระเบียบการค้าปกติโดยเร็ว


ในส่วนปัญหาชายแดนและดินแดน ไทยเน้นย้ำเช่นกันว่า ไม่ควรใช้กำลังในการแก้ไข และไทยต้องขอขอบคุณต่อจุดยืนที่เป็นกลางของจีนในการไกล่เกลี่ย และส่งเสริมการเจรจา พร้อมกับย้ำว่า ไทยยินดีที่จะแก้ไขข้อพิพาทกับกัมพูชาผ่านการเจรจาทวิภาคี ด้วยมิตรภาพและไมตรีจิต


นายหวังอี้ ยังได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องการค้าโลกด้วย โดยเขากล่าวว่า สหรัฐฯ ได้ทำลายระบบการค้าเสรีและส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน ไปจนถึงอุตสาหกรรมทั่วโลก ด้วยการกำหนดภาษีศุลกากรเพียงฝ่ายเดียว นายหวังอี้ ยังได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยและประเทศสมาชิกอาเซียน จะปกป้องผลประโยชน์อันชอบธรรมของตน และต่อต้านนโยบายฝ่ายเดียว การเมืองแบบใช้อำนาจ และการกลั่นแกล้ง ทั้งนี้จีนได้มีความมุ่งมั่นที่จะลงนามในข้อตกลงสำหรับเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน 3.0 ภายในปีนี้ เพื่อขยายตลาดร่วมและแสดงการสนับสนุนร่วมกันต่อกฎระเบียบขององค์การการค้าโลก รวมถึงระบบการค้าพหุภาคีผ่านการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม


ในวันเดียวกันนี้นายหวัง อี้ ยังได้เข้าพบกับนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำมาเลเซียที่ปุุตราจาย่า ทั้งสองได้เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์และความร่วมมือทวิภาคีของทั้งสองประเทศ ในการพบปะครั้งนี้ทั้งสองยังได้พูดคุยกันถึงกลไกทางเศรษฐกิจโลก ซึ่งนายกฯมาเลเซียได้กล่าวถึง กลุ่มประเทศบริกส์ (BRICS) กำลังแข็งแกร่งขึ้น และประเทศต่างๆ กำลังมุ่งมั่นสู่ความเป็นอิสระและการพัฒนา ซึ่งมาเลเซียกล่าวว่า จีนมีบทบาทผลักดันให้เกิดแนวทางดังกล่าวขึ้น


นายหวัง อี้ยังกล่าวด้วยว่า การที่สหรัฐฯ เก็บภาษีศุลกากรในจำนวนที่สูงเพียงฝ่ายเดียวเป็นการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบ ขัดต่อความร่วมมือระดับโลกและผลประโยชน์ร่วมกัน หวังกล่าว ว่า จีนจะยืนหยัดเคียงข้างประเทศกำลังพัฒนา มุ่งมั่นที่จะเปิดกว้างทางการค้า และแบ่งปันผลประโยชน์จากตลาดขนาดใหญ่ของตน เพื่อขยายความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ