“ทรัมป์” ถือฤกษ์วันชาติ ส่งจดหมายให้กว่า 100 ประเทศ ก่อนเส้นตายภาษี 9 ก.ค.นี้

“โดนัลด์ ทรัมป์” ผู้นำสหรัฐฯ ถือฤกษ์วันชาติ ส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีนำเข้าสินค้าให้กับประเทศต่างๆ กว่า 100 ประเทศ ก่อนเส้นตายภาษี 9 ก.ค.นี้ ลั่น “นี่คือจำนวนเงินที่คุณต้องจ่าย ถ้าอยากทำธุรกิจในสหรัฐฯ”

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ถือฤกษ์ วันชาติ (4 กรกฎาคม) ส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีนำเข้าสินค้าให้กับประเทศต่างๆ กว่า 100 ประเทศ พร้อมยอมรับถึงความซับซ้อนในการเจรจากับกว่า 170 ประเทศ โดยได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนเดินทางไปยังรัฐไอโอวาเมื่อวานนี้ (3 ก.ค.) ว่า จดหมายจะถูกส่งไปยังประเทศต่างๆ ครั้งละ 10 ประเทศ โดยจะระบุอัตราภาษี เช่น 20% ถึง 30%

ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่า “มันง่ายกว่ากันเยอะมาก เราต้องรับมือกับมากกว่า 170 ประเทศ ผมอยากแค่ส่งจดหมายบอกว่า “นี่คือจำนวนเงินที่คุณต้องจ่าย ถ้าอยากทำธุรกิจในสหรัฐฯ” อย่างไรก็ดี ทรัมป์คาดว่าสหรัฐฯ จะบรรลุข้อตกลงทางการค้าอีก “สองสามฉบับ” กับบางประเทศ

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์บอกว่าเขาต้องการใช้วิธีแจ้งอัตราภาษีที่เฉพาะเจาะจงไปยังประเทศส่วนใหญ่เลย แทนการเจรจาในรายละเอียด

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนเมษายน คณะที่ปรึกษาระดับสูงของทรัมป์เคยประกาศว่าจะทำข้อตกลงทางการค้า 90 ฉบับภายในเวลา 90 วัน หลังจากทรัมป์ได้ประกาศลดภาษีนำเข้าสินค้ากับประเทศต่างๆ เหลือ 10% เป็นการชั่วคราว จากที่เคยตั้งไว้สูงสุดถึง 50% เพื่อให้มีเวลาในการเจรจาจนถึงวันที่ 9 กรกฎาคม

แต่ดูเหมือนว่าเป้าหมายดังกล่าวจะส่วนทางกับความเป็นจริง เนื่องจากจนถึงขณะนี้ สหรัฐอเมริกาได้บรรลุข้อตกลงทางการค้ากับ 2 ประเทศเท่านั้น คือ สหราชอาณาจักร ที่บรรลุข้อตกลงในเดือนพฤษภาคมเพื่อคงอัตราภาษีไว้ที่ 10% และยังได้รับสิทธิพิเศษในบางภาคส่วน เช่น ยานยนต์และเครื่องยนต์อากาศยาน และเวียดนาม ที่ได้รับการลดภาษีจากสหรัฐฯ เหลือ 20% จากเดิม 46% ขณะที่สินค้าของสหรัฐฯ จำนวนมากจะสามารถเข้าสู่เวียดนามได้โดยปลอดภาษี

ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่ทรัมป์จะประกาศเรื่องการส่งจดหมายภาษี นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังของสหรัฐฯ กล่าวกับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า มีประมาณ 100 ประเทศที่น่าจะเผชิญกับอัตราภาษีต่างตอบแทน (Reciprocal Tariff) ที่ 10% และคาดการณ์ว่าจะมีการประกาศข้อตกลงการค้า "จำนวนมาก" ก่อนถึงเส้นตายวันที่ 9 กรกฎาคม

แม้ไม่ได้ระบุชื่อประเทศใดโดยตรง แต่เบสเซนต์กล่าวว่า บางประเทศเสนอข้อตกลงที่ดี แต่บางประเทศกลับเสนอเงื่อนไขที่ “ไม่อาจยอมรับได้”

ส่วนประเทศที่ยังอยู่ระหว่างการเจรจาก็มี สหภาพยุโรป (20%), อินเดีย (26%), ญี่ปุ่น (24%) ส่วนประเทศที่ยังไม่ได้เข้าสู่การเจรจาก็ยังมีอีกหลายประเทศ เช่น ประเทศไทย (36%), มาดากัสการ์ (47%) และเลโซโท (50%)