“อิสราเอล” ถล่ม “กาซา” รุนแรงที่สุดในรอบหลายสัปดาห์ ยอดเสียชีวิตพุ่ง 80 สวนทาง “ทรัมป์” ผลักดันการหยุดยิง

สถานการณ์ในฉนวนกาซายังคงวิกฤต ล่าสุด อิสราเอลเปิดฉากโจมตีอย่างรุนแรงที่สุดในรอบหลายสัปดาห์ สังหารชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 80 คนภายในวันเดียว สวนทางกับความพยายามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่กำลังผลักดันการหยุดยิง


โดยหนึ่งวันหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรียกร้องให้มีการทำข้อตกในฉนวนกาซาและนำตัวประกันทั้งหมดกลับมา นายรอน เดอร์เมอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุทธศาสตร์ของอิสราเอล ซึ่งเป็นคนสนิทของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ได้เดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อเจรจากับสหรัฐฯ เกี่ยวกับประเด็นของอิหร่านและกาซา


แหล่งข่าววงในระบุว่า นายเดอร์เมอร์จะเริ่มหารือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลทรัมป์ในวันนี้ (01 ก.ค.) ซึ่งนอกเหนือจากการเจรจาเรื่องแนวโน้มการหยุดยิงในกาซาแล้ว นายเดอร์เมอร์ยังมีแผนจะหารือเกี่ยวกับการเยือนทำเนียบขาวของนายเนทันยาฮูที่อาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าด้วย


แม้รัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์จะพยายามผลักดันการหยุดยิง แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์ในพื้นที่กลับไม่มีสัญญาณว่าการโจมตีจะลดน้อยลงเลย โดยเมื่อวานนี้ กองทัพอิสราเอลได้ออกคำสั่งให้ชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทางเหนือของฉนวนกาซาอพยพ ก่อนทำการโจมตีอย่างหนักหน่วง



รายงานระบุว่ารถถังของอิสราเอลได้บุกเข้าไปในพื้นที่ทางตะวันออกของเมืองเซตูน (Zeitoun) ชานเมืองของเมืองกาซาซิตี้ และยิงถล่มหลายพื้นที่ทางตอนเหนือ ขณะที่เครื่องบินรบก็ได้ทิ้งระเบิดใส่โรงเรียนอย่างน้อย 4 แห่งหลังจากสั่งให้ครอบครัวหลายร้อยครอบครัวที่พักพิงอยู่ภายในอพยพ


เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 58 รายจากการโจมตีของอิสราเอล เมื่อวานนี้ (30 มิ.ย.) ในจำนวนนี้ 10 รายเสียชีวิตที่เมืองเซตูน และอีก 13 รายเสียชีวิตในเมืองกาซา ซิตี้ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ระบุว่า ในจำนวนดังกล่าวมีอย่างน้อย 13 คนถูกยิง


นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่ากองทัพอิสราเอลได้โจมตีทางอากาศใส่ร้านกาแฟริมชายหาดในเมืองกาซา ซิตี้ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 22 คน หนึ่งในนั้นคือนักข่าวท้องถิ่น ทำให้ยอดนักข่าวที่เสียชีวิตในสงครามครั้งนี้พุ่งเกิน 220 รายแล้ว


แม้ว่าหลายชาติจะพยายามผลักดันการหยุดยิง แต่การเจรจาก็ยังคงไม่แน่นอน เนื่องจากอิสราเอลและกลุ่มฮามาสยังมีจุดยืนที่แตกต่างกัน โดยกลุ่มฮามาสยืนยันว่าการเจรจาจะคืบหน้าได้ก็ต่อเมื่ออิสราเอลยอม "ยุติสงครามและถอนทหารทั้งหมด" ออกจากกาซา ส่วนอิสราเอลยืนกรานว่าจะยุติสงครามได้ก็ต่อเมื่อกลุ่มฮามาสถูก "ปลดอาวุธและทำลายลงอย่างสิ้นเชิง" พร้อมทั้งกล่าวว่าอิสราเอลได้ยอมรับข้อเสนอหยุดยิง 60 วันของสหรัฐฯ แล้ว และโยนความผิดให้กลุ่มฮามาสที่ไม่ยอมรับข้อตกลงนี้


ด้านนานาชาติ โดยเฉพาะยุโรป เริ่มแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของออสเตรียถึงกับกล่าวว่าสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในกาซานั้นเลวร้ายจนไม่อาจทนได้ และกำลังทำลายความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับยุโรป


ทั้งนี้ สงครามที่ดำเนินมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ได้คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปแล้วกว่า 56,000 คน และทำให้ประชากรเกือบทั้งหมดต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น ท่ามกลางวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์