รมว.มหาดไทยกัมพูชา โจมตีไทยเล่นบทน่าสงสาร ลั่นแม้กัมพูชาจะยากจนแต่มีศักดิ์ศรีกว่า

เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานาย ซอร์ ซกคา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา ได้โพสต์เฟซบุ๊กโจมตีฝ่ายไทยตั้งแต่รัฐบาลไทย กองทัพ และฝ่ายค้าน พยายามยั่วยุ บิดเบือนเรื่องราว และสร้างความสับสนให้กับประชาชนและประชาคมโลกอย่างต่อเนื่อง

นายซอร์ โพสต์ว่า นับตั้งแต่ช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดที่ทหารไทยยิงและสังหารทหารกัมพูชาเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมาในพื้นที่ช่องบก จนกระทั่งวันนี้วันที่ 25 มิถุนายน 2568 ฝ่ายไทยตั้งแต่รัฐบาลไทย กองทัพและฝ่ายค้าน พยายามยัวยุ บิดเบือน และปกปิดเรื่องราว สร้างความสับสนให้กับประชาชนและประชาคมโลก เพื่อบรรเทาความโหดร้ายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ช่องบก เพื่อปกปิดความแตกแยกทางการเมืองภายในที่ฝังรากลึก และปกปิดความเปราะบางของรัฐบาลชุดปัจจุบัน

ซอร์ ซกคา ยังระบุด้วยว่า ไม่อยากจะขอลงรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำอันป่าเถื่อนของไทยมากนัก ซึ่งเมื่อเช้าวันที่ 25 มิถุนายน จู่ ๆ ไทยก็ออกมาแสดงบทบาทน่าสงสารให้คนไทยและประชาคมโลก ได้เห็นและหลงเชื่อว่า ตอนนี้ประเทศไทยเปิดจุดผ่านด่านทั้งหมดแล้ว มีเพียงกัมพูชาที่ยังปิดอยู่ ซึ่งขัดกับจุดยืนของไทย ชาวกัมพูชาที่สนับสนุนรัฐบาลด้วยใจก็ยังคงเฝ้าดูละครไทยเรื่องนี้ โดยเฉพาะประชาคมโลกอาจเริ่มเบื่อหน่ายการกระทำของไทยแล้ว เพราะไม่อยากวิ่งตามกลอุบายเด็ก ๆ ของไทย

ขอให้พิจารณาด้วยว่า การเปิดแค่ประตู แต่ไม่ให้คนเดินผ่านแบบสาธารณะเป็นพฤติกรรมแบบไหนกัน? การกระทำเช่นนี้จะถูกบันทึกไว้ในสำนวนคดีเพื่อประณามและสร้างภาระผูกพัน หรือพันธะทางกฎหมายให้กับไทย หากไทยมีความซื่อสัตย์และเปิดประตูจุดผ่านแดนทุกบานอย่างเป็นทางการ ประเทศไทยต้องออกหนังสืออย่างเปิดเผย หรือแจ้งต่อกัมพูชาและโลกภายนอกว่า ไทยยินยอมที่จะเปิดจุดผ่านแดนอย่างเต็มที่อีกครั้ง อย่าเปิดจุดผ่านแดนเพียงเพื่ออวดอ้าง แต่กลับมาปิดประตูเพื่อป้องกันบุคคลทั่วไปเข้าไป นี่เรียกว่า "เปิดแต่ปิด" เป็นกลอุบายที่มีพิษร้าย ซึ่งโลกไม่รู้ตรงนี้

โดยสรุปสั้นๆ ก็คือ เหตุการณ์เริ่มตั้งแต่การกระทำที่ยั่วยุบริเวณช่องบกใกล้พรมแดนสปป.ลาว จนถึงตอนนี้ไทยสร้างเรื่องและบิดเบือนมาตลอด โพสต์ของนายซอร์ยังระบุด้วยว่า แม้กัมพูชาจะยากจนกว่าไทย แต่กัมพูชามีศักดิ์ศรีมากกว่าไทย! ไทยไม่รู้จักสงคราม แต่กัมพูชาเบื่อสงคราม! กัมพูชาต้องการเพียงความเคารพและความร่วมมือตามกลไกทางกฎหมาย ความตกลง และกลไกระหว่างประเทศ และให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อสันติภาพและศักดิ์ศรีของมนุษยชาติ