กห.กัมพูชา ออกแถลงการณ์ กล่าวหา“ไทย”ละเมิดข้อตกลง JBC-MOU 43 พบขุดสนามเพลาะ-ระดมกำลังเสริมชายแดน

เมื่อเวลา 10.20 น. วันนี้ (18 มิ.ย.) กระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์ฉบับเร่งด่วน เพื่อชี้แจงสถานการณ์ล่าสุดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ โดยมีใจความสำคัญดังนี้


กัมพูชายังคงมีเจตจำนงที่จะรักษาสันติภาพและยึดมั่นในจุดยืนที่จะแก้ไขปัญหาเขตแดนกับไทยผ่านกระบวนการของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) อย่างสันติและด้วยความรับผิดชอบสูงสุด โดยเฉพาะในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาเมือนโต๊ด, ปราสาทตาควาย, และพื้นที่มอมเบย


นอกจากนี้ กัมพูชาได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) เมื่อวันที่ 14-15 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบในภารกิจที่ต้องดำเนินการร่วมกันในขั้นต่อไป


แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ฝ่ายไทยไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว และยิ่งไปกว่านั้น ยังเพิ่มกิจกรรมที่เป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา ซึ่งขัดต่อบันทึกความเข้าใจระหว่างสองประเทศ หรือ MoU ปี 2543


แถลงการณ์ได้กล่าวหาการกระทำของฝ่ายไทยอย่างเจาะจงว่าฝ่ายไทยส่งโดรนเข้ามามากขึ้น พร้อมกับขุดสนามเพลาะ รวมถึงเพิ่มและระดมอาวุธยุทโธปกรณ์และปืนใหญ่ทุกชนิดเข้ามาในพื้นที่มากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและเพิ่มจำนวนทหารตามแนวชายแดนในจังหวัดพระวิหารและอุดรมีชัย ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสันติภาพและความมั่นคงของทั้งสองประเทศ


ในตอนท้าย แถลงการณ์ได้ระบุถึงจุดยืนของกองทัพกัมพูชาว่า กองทัพกัมพูชาสนับสนุนจุดยืนของรัฐบาลในการแก้ไขข้อพิพาทตามกฎหมายระหว่างประเทศและด้วยสันติวิธี, รักษาจุดยืนที่แน่วแน่ทั้งในหมู่กองทัพและประชาชนทั่วประเทศ, เคารพอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนพื้นที่ชายแดนให้เป็นเขตสันติภาพ แต่จะไม่อนุญาตให้มีความพยายามรุกรานจากประเทศใดๆ และขอให้คำมั่นว่าจะปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดน ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม